“เฉลิมชัย ศรีอ่อน”ส่อหลุดโผ ครม. ติดปมที่ดินล่องหน - ภรรยาถูกป.ป.ช.ชี้มูล

03 ก.ย. 2567 | 11:04 น.
อัพเดตล่าสุด :03 ก.ย. 2567 | 11:19 น.

“เฉลิมชัย ศรีอ่อน”หัวหน้า ปชป. ส่อหลุดโผ ครม.แพทองธาร จากปมแสดงบัญชีทรัพย์สิน ที่ดินภ.บ.ท. 5 เนื้อที่ 120 ไร่ ล่องหน เมื่อครั้งนั่งรมต.ในรัฐบาลประยุทธ์ ขณะที่ “ภรรยา” นั่งนายกเทศมนตรีตำบลปราณบุรี ถูก ป.ป.ช.ชี้มูล

วันนี้ ( 3 ก.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งได้รับการเสนอชื่อจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้เข้าดำรงตำแหน่ง รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร  อาจจะไปไม่ถึงดวงดาว มีปัญหาเรื่องคุณสมบัติด้านจริยธรรม เนื่องจากยังมีประเด็นที่เป็นข้อสงสัยจากสังคม กรณีการถือครองที่ดิน ภ.บ.ท.5 เนื้อที่ 120 ไร่ ของนายเฉลิมชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย มีชื่อถือครองที่ดินพื้นที่ ภ.บ.ท. 5 เลขที่ 2233/49 ต.บึงนคร อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 120 ไร่ มูลค่า 3,600,000 บาท ซึ่งเป็นข้อมูลตามที่ปรากฏในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2551 

แต่ในการยื่นบัญชีทรัพย์สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง รมว.แรงงาน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2553 และการเข้ารับตำแหน่งในทางการเมืองครั้งต่อๆ มา ไม่ปรากฏว่า นายเฉลิมชัย แจ้งถือครองที่ดิน ภ.บ.ท. ฉบับนี้

โดยเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2562 นายเฉลิมชัย ซึ่งคราวนั้นรับตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ เคยตอบข้อสงสัยของสังคมเกี่ยวกับที่ดินดังกล่าวซึ่งล่องหนไปจากการแสดงบัญชีทรัพย์สิน ว่า ชี้แจง ป.ป.ช.ไปหมดแล้ว ซึ่ง ป.ป.ช.ไม่สามารถจะทำให้ทรัพย์สินหายไปโดยที่ไม่มีหลักฐานได้ เพราะทาง ป.ป.ช.ก็เข้าไปตรวจแล้วจริงๆ ตามข้อมูลหลักฐานว่าที่ดินดังกล่าวนั้น หายไปแล้วจริง พูดง่ายๆ ว่าที่ดิน ทรัพย์สินแต่ละคน มันก็มีมามีไป เป็นเรื่องปกติ เอาเป็นว่าก็ชี้แจงไปแล้วก็แล้วกัน 

ทั้งนี้ นายเฉลิมชัย ยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. กรณีพ้นจากตำแหน่งรมว.เกษตรฯ เมื่อ 5 ก.ย. 2566 มีทรัพย์สินรวมกับ นางธันยวีร์ ศรีอ่อน คู่สมรส รวม 102,537,251.90 บาท มีหนี้สินรวม 10,530,001 บาท

ในส่วนของ นายเฉลิมชัย มีทรัพย์สิน 43,281,189.040 บาท แบ่งเป็นเงินฝาก 3,881,189.040 บาท ที่ดิน 32,900,000 บาท ยานพาหนะ 1,000,000 บาท และทรัพย์สินอื่น 5,500,000 บาท มีหนี้สิน 10,000,000 บาท รายได้ต่อปี 1,932,080 บาท  มาจากเงินเดือนเงิน-ประจำตำแหน่ง เงินทุนเลี้ยงชีพ เบี้ยประชุม และค่าเช่าที่ดิน ไม่มีรายจ่ายต่อปี มีเงินฝาก 5 บัญชี มีที่ดิน 11 แปลงส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, สะสมอาวุธปืน 10 กระบอก มีสร้อยคอทองคำ-พระเครื่อง แหวนเพชร-พลอย และ นาฬิกา 5 เรือน

สำหรับ นางธันยวีร์ คู่สมรส มีทรัพย์สิน 59,256,062.86 บาท มีทั้งเงินฝาก เงินให้กู้ยืม, ที่ดินมูลค่า 41,700,000 บาท โรงเรือนละสิ่งปลูกสร้าง 2,000,000 บาท, ยานพาหนะ 400,000 บาท , และทรัพย์สินอื่น 8,000,000 บาท, มีหนี้สิน 530,001 บาท จากเงินเบิกเกินบัญชี มีเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่ง 1,826,102 บาทต่อปี และไม่มีรายจ่ายต่อปี

มีเงินฝาก 7 บัญชี มี 2 รายการเงินให้กู้ยืม รวม 1,100,000 บาท มีที่ดิน 39 แปลง ส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ สะสมนาฬิกา แหวนเพชร-พลอย เข็มกลัดเพชร เข็มขัดทองพร้อมหัวพลอยนพเกล้า สร้อยคอเพชร สร้อยคอมุก กำไลข้อมือเพชร-พลอย ต่างหูเพชร และกระเป๋าถือ

นายเฉลิมชัย มีบุตรบรรลุนิติภาวะ 1 คน ชื่อ สรวิศ ศรีอ่อน อายุ 27 ปี

นอกจากนี้ อีกกรณีหนึ่ง ที่อาจลามทำให้ นายเฉลิมชัย ติดกับดักจริยธรรม ไม่สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้ คือ กรณีมีกระแสข่าว นางธันยวีร์ ศรีอ่อน ภรรยา ซึ่งดำรงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีตำบลปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และถูกร้องเรียน จนป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดให้ดำเนินคดีอาญา และดำเนินการทางวินัย  

โดยกรณีดังกล่าว เกิดจาก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้จัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ โครงการสนับสนุน แผนปฏิบัติการเพื่อการจัดการคุณภาพสิ่งแวดล้อม รายการค่าก่อสร้างระบบกําจัดขยะมูลฝอย (เขตที่ ๑) เทศบาลตําบลปราณบุรี จํานวน ๑๘๒,๖๐๐,๐๐๐ บาท และเทศบาลตําบลปราณบุรี จ่ายสมทบ จํานวน ๒๐,๒๕๐,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒๐๒,๙๐๐,๐๐๐ บาท

ทั้งนี้ นางธันยวีร์ ศรีอ่อน ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑ และ พวก ถูกบริษัทผู้รับเหมาร้องเรียนกล่าวหา ต่อ ป.ป.ช. กรณีฮั้วประมูลโครงการดังกล่าว และ ป.ป.ช.ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน ๕ เสียง เห็นชอบตามความเห็นของคณะผู้ไต่สวนเบื้องต้นว่า

การกระทําของ นางธันยวีร์ ศรีอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาที่ ๑ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทํา จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อํานาจในตําแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหาย แก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล หรือ เจ้าของทรัพย์นั้น 

และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๑๕๑ และมาตรา ๑๕๗ ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใด ในตําแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๔๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๑๒๓/๑ (ปัจจุบันเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๗๒)

ฐานใช้อุบายหลอกลวงหรือกระทําการโดยวิธีอื่นใดเป็นเหตุให้ผู้อื่นไม่มีโอกาสเข้าทําการเสนอราคาอย่างเป็นธรร มหรือ ให้มีการเสนอราคาโดยหลงผิด และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐกระทําความผิด ตามพระราชบัญญัตินี้ หรือกระทําการใด ๆ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมเพื่อเอื้ออํานวย แก่ผู้เข้าทําการเสนอราคารายใดให้เป็นผู้มีสิทธิทําสัญญากับหน่วยงานของรัฐ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๗ และมาตรา ๑๒ 

แต่ความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๗ ได้ขาดอายุความแล้วสิทธินําคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๓๙ (๖) จึงให้ยุติการดําเนินคดีอาญา ในความผิดฐานนี้ 

และมีมูลความผิด ฐานปฏิบัติการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อย หรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอํานาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ.๒๔๙๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา ๗๓

ให้ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สําเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคําวินิจฉัย ไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดําเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอํานาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นางธันยวีร์ ศรีอ่อน นายศุภสวัสดิ์ ศรัณย์ภัทรานนท์ นายไชยา เย็นฑูร นางสุทิน ปู่ดํา นางธนวรรณ สังข์ทอง และ นายสุรชิต ทองสุวรรณ 

และให้ส่งรายงาน สํานวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคําวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อดําเนินการทางวินัยกับ นางธันยวีร์ ศรีอ่อน นายศุภสวัสดิ์ ศรัณย์ภัทรานนท์ นายไชยา เย็นทูร นางสุทิน ปู่ดํา นางธนวรรณ สังข์ทอง และ นายสุรชิต ทองสุวรรณ ตามฐานความผิดดังกล่าว

ตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๙๑ (๑) และ (๒) และมาตรา ๙๘ และมาตรา ๙๘ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๙๘ วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้สํานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบ

ทั้งนี้ ให้แจ้งเทศบาลตําบลปราณบุรี อําเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดําเนินการตามหน้าที่ และอํานาจเพื่อให้มีการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๖๑ มาตรา ๘๒ วรรคสอง

สำหรับมติเอกฉันท์ ของ ป.ป.ช.ทั้ง ๕ เสียง ประกอบด้วย

1.พล.ต.อวัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.

2.นายวิทยา อาคมพิทักษ์ กรรมการ ป.ป.ช.

3. นางสุวณา สุวรรณจูฑะ)กรรมการ ป.ป.ช.

4. นายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช.

5. นายเอกวิทย์ วัชชวัลคุ กรรมการ ป.ป.ช.

ทั้งนี้ นางธันยวีร์ ศรีอ่อน ได้รับเลือกตั้งเป็น นายกเทศมนตรีตำบลปราณบุรี อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564

ตามกฎหมายแล้ว สามีและภรรยา ถือเป็นบุคคลคนเดียวกัน กรณีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลเอาผิดกับ นางธันยวีร์ ภรรยา ในกรณีนี้ไม่รู้ว่าจะลามไปถึงเรื่อง “จริยธรรม” ที่ส่งผลกระทบต่อเก้าอี้รัฐมนตรีของ นายเฉลิมชัย ด้วยหรือไม่?