ท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน สถาบันการเงินเข้ม'งวดการปล่อยสินเชื่อ ส่งผลให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอาจได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารหลักของรัฐมีพันธกิจทำให้คนไทยมีบ้าน ได้สนับสนุนผู้ประกอบการ สามารถขอสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อประกอบธุรกิจ ให้ประชาชนเข้าถึงที่อยู่อาศัยอย่างได้อย่างต่อเนื่อง
นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 71 ปี ธอส. ได้สนับสนุนคนไทย โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมาแล้วมากกว่า 4.4 ล้านครอบครัว ตามพันธกิจ
“ทำให้คนไทยมีบ้าน” มาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ธอส. ยังส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่ประกอบธุรกิจแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า พัฒนาที่อยู่อาศัย รองรับความต้องการมีที่อยู่อาศัยของคนไทย
จึงได้ดำเนินการจัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการแฟลต อพาร์ทเม้นท์ หอพัก แมนชั่น หรืออาคารที่ประกอบกิจการเพื่อการให้เช่าพักอาศัย รวมไปถึงบ้านเช่า ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ โดยสินเชื่อดังกล่าว ประกอบด้วย
(1) โครงการ Premium Refinance In ปี 2567 เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินและอาคาร สินเชื่อประเภทแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า : สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการไถ่ถอนจำนองที่ดินและอาคารแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย
อัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 4.00% ต่อปี
ปีที่ 2 คงที่ เท่ากับ 4.50% ต่อปี
ปีที่ 3 คงที่ เท่ากับ 5.00% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 4.50% ต่อปี)
ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MLR-1.00% ต่อปี (5.50% ต่อปี)
ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR (อัตราดอกเบี้ย MLR ของ ธอส. ในปัจจุบันเท่ากับ 6.50% ต่อปี) ระยะเวลาการกู้นานสูงสุด 30 ปี พิเศษ! ยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าประเมินหลักประกัน
ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และทำนิติกรรมถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 หรือก่อนระยะเวลาดังกล่าว หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว (กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)
(2) สินเชื่อประเภทแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า ปี 2567 : สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ปรับปรุง ซ่อมแซม อาคารแฟลตให้เช่า / บ้านเช่า รวมถึงเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย และกู้เพิ่ม โดยผู้ที่ขอกู้วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1 – 3 คงที่ เท่ากับ 4.75% ต่อปี
และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR
ส่วนผู้ที่ขอกู้วงเงินเกิน 5 ล้านบาท จะได้รับอัตราดอกเบี้ย
ปีที่ 1 คงที่ เท่ากับ 4.50% ต่อปี
ปีที่ 2 คงที่ เท่ากับ 5.00% ต่อปี
ปีที่ 3 คงที่ เท่ากับ 5.50% ต่อปี (อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกเพียง 5.00% ต่อปี)
ปีที่ 4 – 5 เท่ากับ MLR- ไม่เกิน 1.00% ต่อปี
ปีที่ 6 จนถึงตลอดอายุสัญญา เท่ากับ MLR
และพิเศษ จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ และค่าประเมินหลักประกัน ผู้ที่สนใจสามารถยื่นคำขอกู้ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 และทำนิติกรรมภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 หรือก่อนระยะเวลาดังกล่าว หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินโครงการแล้ว (กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว)