ค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย.67 กำลังจะได้บทสรุปที่ชัดเจนสำหรับกลุ่มผู้ใช้ไฟเกิน 300 หน่วยต่อเดือนว่าจะต้องจ่ายหน่วยละกี่บาท
หลังจากก่อนหน้านี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เคยประกาศว่าจะจัดเก็บค่าไฟงวดม.ค.-เม.ย.67 ที่ 4.68 บาทต่อหน่วยจากการทำประชาพิจารณาถามความเห็นประชาชน
อย่างไรก็ดี ทั้งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการจัดเก็บค่าไฟในอัตราดังกล่าว และมีความพยายามทำให้ค่าไฟถูกลงมาอยู่ที่ไม่เกิน 4.20 บาท
สำหรับวันนี้ (10 ม.ค. 67) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะออกประกาศราคาค่าไฟงวดใหม่ ปี 2567 หรืองวดม.ค.-เม.ย. สำหรับกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยขึ้นไป เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ให้ค่าไฟในกลุ่มดังกล่าวไม่เกิน 4.17-4.19 บาทต่อหน่วย
หลังที่ประชุม ครม.มีมติให้ปรับโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.)
นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระเงินคงค้างสะสม (AF) สำหรับงวดเดือนม.ค.-เม.ย. 67 แทนประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าไปก่อน
ส่วนบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะมีการทบทวนสมมติฐานปริมาณและราคาก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และจะมีการนำส่วนลดค่าก๊าซธรรมชาติ จำนวน 4,300 ล้านบาทจากการขาดส่งก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยของผู้ผลิต (Shortfall) ในช่วงปลายปี 2564 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 มาช่วยลดราคาก๊าซธรรมชาติในรอบนี้ด้วย
นายพีระพันธุ์ เคยระบุว่า จากมาตรการดังกล่าวทั้งหมด จะทำให้ค่าไฟฟ้างวดเดือนม.ค.-เม.ย.67 จะอยู่ที่ไม่เกิน 4.20 บาทต่อหน่วย"
ขณะที่กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนจะได้รับส่วนลดเพิ่ม 21 สตางค์ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 17 ล้านครัวเรือน จะจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราเดิมคือ 3.99 บาทต่อหน่วย โดยในส่วนนี้จะใช้งบกลางในการบริหารคาดว่าจะใช้เงินประมาณ 1,950 ล้านบาท