"พลังงานนิวเคลียร์" ยังไม่ตอบโจทย์ไทย ต้นทุนแพง-กำลังผลิตไฟเหลือ

06 มี.ค. 2567 | 22:00 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ออกรายงานวิเคราะห์ "พลังงานนิวเคลียร์" ยังไม่ตอบโจทย์ประเทศไทยในขณะนี้ สาเหตุคือ ต้นทุนแพง-กำลังผลิตไฟยังเหลือ

ประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากสุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนในการตัดสินใจกี่ยวกับการผลิตพลังงาน

กระเเสพลังงานนิวเคลียร์ ถูกพูดถึงเมื่อเร็วๆ นี้ โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ จุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน ในการเสวนา Thailand Energy Executive Forum จัดโดยสถาบันวิทยาการพลังงาน (วพน.) สาระสำคัญตอนหนึ่งว่าในประเด็นพลังงานสะอาด ว่า หลายประเทศยังมีการพูดถึงการใช้พลังงานนิวเคลียร์ซึ่งเป็นพลังงานที่ราคาถูก และสะอาดที่สุด 

จากนั้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระบุว่า สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) หน่วยงานในสังกัด อว. และมีฐานะเป็นหน่วยงานกำกับดูแลการใช้พลังงานนิวเคลียร์และรังสีของประเทศ มีความพร้อมทั้งด้านกฎหมายและศักยภาพบุคลากรในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ตามมาตรฐานสากล หากไทยมีแผนใช้พลังงานนิวเคลียร์เป็นพลังงานทางเลือกในการผลิตกระแสไฟฟ้า โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและสิ่งแวดล้อมสำคัญ

 

ศูน์วิจัยกสิกรไทย ออกรายงานฉบับล่าสุดมีเนื้อหาที่น่าสนใจ โดยระบุว่า  "พลังงานนิวเคลียร์" ในประเทศไทยจากที่ทางภาครัฐมีความต้องการให้มีการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์มาเป็นหนึ่งในตัวเลือกของประเทศไทย เพื่อเป็นแหล่งพลังงานสะอาดให้ประเทศไทยนั้นเมื่อมองไปในแถบอาเซียน จะพบว่า ยังไม่เคยมีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ ในประเทศกลุ่มอาเซียน ขณะที่ ในทวีปยุโรปการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์มีสัดส่วน 22% โดยประเทศฝรั่งเศสมีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์มาก ที่สุดมีสัดส่วน 69%

สำหรับประเทศไทย พลังงานนิวเคลียร์ได้มีการกล่าวถึงในแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (แผน PDP) ในปี2015 ก่อนที่จะถูกนำออกจากแผน PDP 2018 อย่างไรก็ดี พลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์ยังคงถูกพูดถึงอีกครั้งในที่ประชุม APEC Summit 2022

พลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์และระบบพลังงานไฟฟ้าของไทย

พลังงานนิวเคลียร์ มีข้อดีหลายอย่าง โดยเฉพาะเป็น "พลังงานสะอาด (clean energy)" ที่มีความเสถียรภาพ ให้พลังงานไฟฟ้าเพียงพอต่อความต้องการพื้นฐาน เป็นกำลังการผลิตไฟฟ้าหลัก (baseload) โดยอุปสรรคการนำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เข้าประเทศในประเทศไทยนั้นไม่ใช่อุปสรรคจากข้อจำกัดด้าน เทคโนโลยี แต่เป็นความเป็นไปได้ในเชิงพาณิชย์

มุมมองในเชิงพาณิชย์ ในการเปรียบเทียบต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าของเชื้อเพลิงแต่ละชนิดจะใช้ Levelized Cost of Electricity” (LCOE) ซึ่งเป็นการคำนวณต้นทุนเฉลี่ยตลอดอายุของ โรงไฟฟ้าที่คำนวณจากค่าก่อสร้างชื้อเพลิง การเดินเครื่อง และบำรุงรักษา โดย LCOE-โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์สูงกว่า LCOE โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนตั้งแต่ปี 2013

โดยในปัจจุบันต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจากนิวเคลียร์เท่ากับ 180 USD/MWh สูงกว่าการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน หรือแม้กระทั่งพลังงานหมุนเวียน โดยต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจาก นิวเคลียร์สูงกว่าพลังงานหมุนเวียนถึง 2.5 – 3 เท่า

ในอนาคตแนวโน้มต้นทุนผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลมจะลดลงเรื่อย ๆ จากการวิจัยและพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับเชื้อเพลิงด้านนี้ ขณะที่ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์นั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนการวิจัย ยกเว้นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบ Fusion ซึ่งประเด็นด้านต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โรงฟ้านิวเคลียร์จะไม่ถูกนำมาพิจารณาเป็นพลังงานทางเลือกในประเทศไทย

ระบบโครงข่ายไฟฟ้าไทยในปัจจุบัน

ในปี 2022 ประเทศไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเกินกว่าความต้องการ 34% โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 49,099 MW สูงกว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดที่ 32,250 MW ซึ่งหากนำพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์มาใช้จะไม่ตอบโจทย์เรื่องกำลังการผลิตไฟฟ้าหลัก (baseload) เพราะมีกำลังการผลิตไฟฟ้ามากพออยู่แล้ว

ความเป็นไปได้ในการนำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาใช้ในไทย

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากมองเฉพาะปัจจัยต้นทุนและพลังงานทางเลือก พลังงานนิวเคลียร์อาจไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ในไทยในตอนนี้เนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่าพลังงานหมุนเวียน 2 – 3 เท่า และในปัจจุบันยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าในประเทศที่มีส่วนเกินมากกว่า 34% อยู่แล้ว แต่พลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์อาจเข้ามามีบทบาทในฐานะพลังงานสะอาดที่ไทยยังคงมีสัดส่วนไม่ถึง 20% ของกำ ลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด เพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของประเทศในปี 2065 ไทยจำเป็นต้องมีการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียน

ในอนาคตข้างหน้า

พลังงานไฟฟ้าจากนิวเคลียร์มีส่วนสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์ด้านพลังงานในระยะยาว จากข้อดีเรื่องความมั่นคงและเป็นแหล่งพลังงานสะอาด ถึงแม้ว่าปัจจัยด้านต้นทุน จะทำให้พลังงานนิวเคลียร์อาจไม่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ในขณะนี้ นอกจากนี้จะต้องมีการพิจารณาเรื่อง ความพอเพียงของทรัพยากรน้ำ การจัดการกากกัมมันตรังสีป้องกันการรั่วไหลของรังสี 

ภาครัฐจะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนของการให้น้ำหนักด้านส่งเสริมพลังงานสะอาดและต้นทุนควบคู่กัน โดยการพิจารณาความเป็นไปได้ในการนำโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มาใช้ในไทยสามารถทำได้ 3 แนวทาง

  1. นำเข้ามาใช้ในฐานะพลังงานสะอาด
  2. หันไปส่งเสริมพลังงานสะอาดอื่น ๆ แทน
  3. นำเข้ามาในลักษณะเตาปฏิกรณ์ขนาดเล็ก Small Modular Reactors (SMRs)

ปัจจุบันทั่วโลกมีการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในการผลิตกระแสไฟฟ้าใน 32 ประเทศ และผลิตไฟฟ้าได้ร้อยละ 10 ของกำลังผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ประเทศลำดับต้น ๆ ที่มีคือ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน ส่วนประเทศที่กำลังจะมี คือ บังกลาเทศ อียิปต์ และตุรกี โดยทั่วโลกมีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์กว่า 400 โรง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีกกว่า 50 โรง

ที่มา 

Thailand looking at new modular US nuclear reactors as a future sustainable power source

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย