"เกศศิริ " ทายาท ส.ส. 5 สมัย ฝันสร้างประเทศก้าวหน้ากฎหมาย
"เกศศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ " ทนายความสาว ทายาท ส.ส.สุรินทร์ 5 สมัย ตามฝันสร้างประเทศให้ก้าวหน้า ด้วยกฎหมายที่ยึดประชาชนเป็นหลัก
“จริงๆแล้วคุณพ่อไม่สนับสนุนให้มาทำงานการเมือง เพราะห่วงเรื่อง ความเป็นผู้หญิงที่ต้องไปพบปะผู้คนมากมาย แต่ก็ได้พิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าเราไหว และด้วยความตรงไปตรงมาแบบนี้แม้จะเจอลูกเล่น ชั้นเชิงอะไรมาก็รับมือได้ ไม่มีปัญหา”
นี่คือความมุ่งมั่นในงานการเมืองที่ เกด เกศศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ทนายความสาว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ถ่ายทอดให้ทีมข่าว ฐานเศรษฐกิจ ได้ฟัง เมื่อพลิกดูประวัติของ เกศศิริ เป็นบุตรสาวของ นายกำชัย เรืองกาญจนเศรษฐ์ อดีต ส.ส.สุรินทร์ 5 สมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร และ รัฐมนตรีช่วยว่าการศึกษาธิการ ในรัฐบาล นายชวน หลีกภัย
พ่อ คือ แรงบันดาลใจหนึ่งที่ทำให้ก้าวเข้าสู่งานการเมือง เพราะได้เห็นคุณพ่อทำประโยชน์ให้กับประชาชน จึงอยากเดินรอยตาม รวมถึงต้องการนำเอาความรู้ด้านกฎหมายที่มีเข้าไปแก้ปัญหาให้กับประชาชน
ในช่วงที่ทำงานเป็นหน้าที่สื่อมวลชน และ ผู้ประกาศข่าว ได้พบเจอปัญหาของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก แต่การเป็นสื่อมวลชนทำได้แค่เผยแพร่ หรือ ตีแผ่ปัญหา จึงมองเห็นว่าการแก้ปัญหาที่ทำครั้งเดียวแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด นั่นคือ การเข้าไปเป็นกระบอกเสียงของ ประชาชน เป็นผู้แทนราษฎร เข้าไปแก้ไขกฎหมายที่ต้องบังคับใช้กับทุกคนให้เหมาะสม เข้าที่เข้าทาง
เกศศิริ ให้เหตุผลเลือกอยู่ในสังกัดพรรคเสรีรวมไทย เป็นเพราะชื่อชั้นของมือปราบตงฉิน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ที่ทำให้เกิดความศรัทธา และอยากเข้าไปเป็นฟันเฟืองหนึ่งในการผลักดันให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้เข้าไปสู่ฝ่ายบริหาร เพื่อขับเคลื่อนแนวทางของพรรค “ปราบทุจริต พิชิตคนพาล คืนงบประมาณให้ประชาชน
ปัญหาคอรัปชั่น เป็นปัญหาใหญ่พอๆกับปัญหาเศรษฐกิจ หากแก้ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันได้ ตั้งแต่การซื้อเสียง ไปจนถึงการที่ต่างชาติไม่ต้องใต้โต๊ะเพื่อการลงทุนในประเทศไทย เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่น่าเข้ามาลงทุน เป็นประเทศที่รุ่งเรือง เป็นมหาอำนาจด้านใดด้านหนึ่งได้
ปัจจุบัน เกศศิริ กำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม (หลักสูตรนานาชาติ) มหาวิทยาลัยมหิดล ควบคู่ไปกับการเรียนเนติบัณฑิต แต่ "เธอ" ยังมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานการเมืองต่อไป ตราบใดที่ยังทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้ โดยเฉพาะการแก้กฎหมายให้เกิดประโยชน์กับประชาชน พร้อมยืนยันว่า ไม่มีอะไรจะเป็นอุปสรรค หรือ บั่นทอนให้ถอยไปจากงานการเมือง
แม้เป้าหมายไม่ได้ฝันถึงเก้าอี้รัฐมนตรีเหมือนเช่นคุณพ่อ แต่การเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่นั้น เกศศิริ ย้ำถึงหน้าที่ของผู้แทนราษฎร ที่ต้องทำให้สมบูรณ์ก่อน นั่นคือ การเข้าประชุมให้เต็มเวลา ไม่โดดประชุม พร้อมเสนอความคิดเห็น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ยึดประชาชนเป็นหลัก ทั้งในกรรมาธิการ และในสภา ต้องพิจารณากฎหมายให้ถี่ถ้วน
นักการเมืองรุ่นใหม่ ต้องสร้างวัฒนธรรมทางเมืองที่ดี ให้กับนักการเมืองรุ่นต่อ ๆ ไป ด้วยการหาเสียงที่สุจริต ไม่ใช้เงินเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง "เธอ" เชื่อว่าหากมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ย่อมทำได้สำเร็จ เหมือนเช่นที่ "เธอ" เป็นทนายหญิงสามารถว่าความได้ในวันนี้ แม้จุดเริ่มต้นจะไม่ได้ชอบกฎหมายมาก่อน แต่เมื่อมุ่งมั่นย่อมประสบความสำเร็จได้ ประเทศไทยก็ย่อมต้องก้าวหน้ากว่านี้ และ ปราศจากการทุจริตได้เช่นกัน