การปะทุของ ภูเขาไฟตาอัล (Taal)ในจังหวัดบาตังกัส (Batangas) บนเกาะลูซอนทางตอนใต้ ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ ของกรุงมะนิลาเกือบๆ 60 ก.ม. เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 12 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งเถ้าละออง ไอร้อน และฝุ่นทราย พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างเห็นได้ชัดเป็นแนวดิ่ง 10-15 ก.ม. ทำให้ทางการฟิลิปปินส์จำเป็นต้องสั่งอพยพประชาชนจำนวนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการด่วน พร้อมทั้งสั่งปิดสนามบินนานาชาติมะนิลาเพื่อความปลอดภัยในการสัญจรทางอากาศ
สถาบันศึกษาภูเขาไฟและแผ่นดินไหวแห่งชาติฟิลิปปินส์ หรือ Phivolcs (The Philippine Institute of Volcanology and Seismology) ได้ออกแถลงการณ์ เตือนภัยในระดับ 4 (จากทั้งหมดที่มี 5 ระดับไล่จากน้อยไปมาก) นั่นหมายความว่า เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่ร้ายแรงอาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันนับจากนี้ และถ้าหากเป็นการเตือนภัยในระดับที่ 5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด นั่นหมายถึงการระเบิดของภูเขาไฟกำลังจะเกิดขึ้นแล้วและจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้สั่งอพยพประชาชนอย่างเร่งด่วนเพราะเชื่อว่าอาจจะเกิด “สึนามิภูเขาไฟ” (volcanic tsunami) ที่เกิดขึ้นเป็นระลอกและส่งผลกระทบใหญ่หลวง
ปิดน่านฟ้า-สถานทูตเตือนคนไทย
จนถึงขณะนี้ยังไม่มี รายงานความเสียหายหรือผู้บาดเจ็บจากการปะทุของภูเขาไฟตาอัล ซึ่งมีความสูง 311 เมตร และตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลสาบใหญ่ คาดว่าจำเป็นต้องมีการอพยพประชาชนจำนวนรวมราว 3 แสนคนภายในระยะไม่กี่วันนี้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในรัศมีเกือบ 13 ก.ม. จากแอ่งภูเขาไฟรอบๆทะเลสาบที่มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับอันตรายจากหิน เถ้า และแก๊สร้อนที่ไหลทะลักออกมาจากแรงระเบิดของภูเขาไฟ รวมทั้งอันตรายจากคลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดจากแรงระเบิดของภูเขาไฟในมหาสมุทร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันอาทิตย์ (12 ม.ค.) เวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ได้เกิดแรงสั่นสะเทือนจากภูเขาไฟตาอัล จากนั้นได้เกิดแผ่นดินไหวตามมา 2 ครั้งวัดแรงสั่นสะเทิอนได้ที่ 2.5 และ 3.9 แมกนิจูด
มีการแจ้งเตือนว่าพื้นที่ที่อยู่ทางตอนเหนือของภูเขาไฟลูกนี้ จะได้รับผลกระทบจากกลุ่มเถ้าทึบหนาและจะปกคลุมเป็นเวลายาวนาน ดังนั้น หน่วยงานควบคุมการบินพลเรือนของฟิลิปปินส์จึงได้แจ้งเตือนเครื่องบินทุกลำให้หลีกเลี่ยงน่านฟ้ารอบๆภูเขาไฟลูกนี้ เพื่อไม่ต้องเสี่ยงกับอันตรายจากเถ้าควันพิษ และเศษหินเศษกรวดที่ระเบิดออกมาตามแรงปะทุและกระจัดกระจายอยู่ในอากาศ
ในส่วนของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งยกเลิกเที่ยวบิน กรุงเทพฯ-มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ วันนี้ (13 ม.ค.) เนื่องจากการปะทุของภูเขาไฟตาอัล เป็นเหตุให้ท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลา ต้องประกาศ ปิดสนามบินชั่วคราว และให้ทุกสายการบินงดทำการบินผ่านและขึ้นลง ตั้งแต่วานนี้ (12 ม.ค.) เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินของการบินไทย ในวันนี้อีก 2 เที่ยวบิน เพื่อความปลอดภัยในการปฏิบัติการบิน จึงมีความจำเป็นต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบิน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะติดตามและประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากท่าอากาศยานนานาชาติมะนิลาเปิดทำการและบริษัทฯ ได้รับอนุญาตให้ทำการบินได้ บริษัทฯ จะทำการบินในเส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-มะนิลาตามปกติต่อไป
ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กของ Royal Thai Embassy, Manila สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุง มะนิลา ได้ประกาศเตือนภัยจากเหตุปะทุของภูเขาไฟตาอัล และขอให้คนไทยงดเว้นการเดินทางไปยังพื้นที่รอบภูเขาไฟและการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ซึ่งทางการฟิลิปปินส์ประกาศเป็นเขตอันตรายโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ ขอให้ติดตามสถานการณ์ และรับฟังข้อแนะนำหรือมาตรการต่างๆของทางการฟิลิปปินส์อย่างใกล้ชิด
วิกฤติคุณภาพอากาศ หน้ากาก N95 ขาดตลาด
กระทรวงสาธารณสุขฟิลิปปินส์ได้ออกคำเตือนประชาชน ควรอยู่ภายในอาคารให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และสวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในพื้นที่นอกอาคาร เนื่องจากมีเถ้าถ่านภูเขาไฟ ซึ่งมีขนาดอนุภาคเท่าผงแป้งและเม็ดทราย ถูกพัดปลิวอยู่ในอากาศ หลังเกิดการปะทุของภูเขาไฟตาอัล
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ประชาชนจำนวนมากเข้าแถวตามร้านค้าในกรุงมะนิลา วันนี้ (13 ม.ค.) เพื่อซื้อหน้ากากอนามัย N95 ขณะที่บรรดาร้านจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ ระบุว่า ไม่มีหน้ากากอนามัย N95 เหลืออีกแล้ว มีเพียงหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาจำหน่ายเท่านั้น