สมเด็จพระราชาธิบดี สุลต่าน อับดุลเลาะห์ อาหมัด ชาห์ แห่งมาเลเซีย ได้รับหนังสือลาออกจากนายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแล้ววานนี้ (24 ก.พ.) และได้แต่งตั้งให้เขาดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรีต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ทำเนียบนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงก่อนหน้านี้ว่า นายมหาธีร์ได้ยื่นหนังสือลาออกต่อสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซีย เมื่อเวลา 13.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันจันทร์โดยเขาไม่ได้เปิดเผยถึงเหตุผลของการลาออกแต่อย่างใด
การยื่นหนังสือลาออกของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเกิดขึ้นท่ามกลางมรสุมการเมืองลูกใหญ่ที่ก่อตัวขึ้นโดยมีรายงานว่า แกนนำพรรคเบอร์ซาตูของนายมหาธีร์ หารือเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ร่วมกับพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ ( อัมโน ) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน และพรรคอิสลามมาเลเซีย ( พีเอเอส ) จนกลายเป็นชนวนสั่นคลอนเสถียรภาพของกลุ่มพันธมิตรจัดตั้งรัฐบาล หรือปากาตัน ฮาราปัน (ซึ่งแปลว่า พันธมิตรแห่งความหวัง) ที่มีพรรคเบอร์ซาตูของนายมหาธีร์ รวมทั้งพรรคความยุติธรรมปวงชน ( พีเคอาร์ ) ของนายอันวาร์ อิบราฮิม เป็นแนวร่วม
อันวาร์จับเข่าคุยมหาธีร์ เชื่อมีคนใช้ชื่อแอบอ้าง
สื่อท้องถิ่นของมาเลเซีย รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำพรรคพีเคอาร์ แถลงที่สำนักงานใหญ่ของพรรคเมื่อวันจันทร์ (24 ก.พ.)ว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัดแล้ว โดยผู้นำวัย 94 ปียืนยันกับเขาว่า ไม่ได้มีส่วนในการหารือแอบจัดตั้งรัฐบาลใหม่ และไม่ต้องการร่วมงานกับพรรคอัมโนของนายนาจิบ ราซัค โดยนายอันวาร์ เชื่อว่า มีการนำชื่อนายมหาธีร์ไปแอบอ้าง
ก่อนหน้านี้ นายอันวาร์ออกมาเปิดโปงว่า มีการแอบหารือกันระหว่างแกนนำพรรครัฐบาลกับฝ่ายค้านเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ โดยไม่มีพรรคพีเคอาร์ของเขา พรรคดีเอพีและพรรคอามานาห์ ซึ่งร่วมกลุ่มพันธมิตรแห่งความหวังในรัฐบาลผสมชุดนี้
แต่หลังจากที่ได้มีการพบหารือเคลียร์ปัญหาคาใจกันวานนี้ ล่าสุด นายอันวาร์ได้กล่าวว่า มหาธีร์ไม่ได้อนุญาต หรือพยายาม และไม่เคยวางแผนพลิกขั้วไปจับมือกับพรรคฝ่ายตรงข้ามเพื่อจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่แต่อย่างใด “ผมไม่คิดว่าเป็นเขา (มหาธีร์) แต่มีกลุ่มคนในพรรคของผมและกลุ่มคนนอกพรรคนำชื่อของเขาไปใช้แอบอ้าง ”
นายอันวาร์ซึ่งปัจจุบันอายุ 72 ปี ยังย้ำกับสื่อด้วยว่า นายมหาธีร์กล่าวยืนยันกับเขาในระหว่างการหารือกันว่า เขา (มหาธีร์) ไม่มีส่วนร่วม และไม่มีทางที่จะร่วมงานกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งน่าจะหมายถึงพรรคอัมโนของนายนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรีที่กำลังต้องคดีอยู่ในเวลานี้
การเมืองขาดเสถียรภาพทำเศรษฐกิจแผ่ว
ความไร้สเถียรภาพทางการเมืองท่ามกลางปัจจัยลบจากภายนอก โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทั่วทั้งภูมิภาค ทำให้เศรษฐกิจของมาเลเซียสั่นสะเทือน ทั้งค่าเงินริงกิต ตลาดพันธบัตรและดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับดิ่งลงทันทีท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น นักวิเคราะห์การเมืองมาเลเซียระบุว่า ทั้งมหาธีร์และอันวาร์มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแผนการถ่ายโอนอำนาจที่มหาธีร์รับปากว่าหลังได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง เขาจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงระยะสั้นๆ จากนั้นจะผลักดันให้นายอันวาร์ขึ้นดำรงตำแหน่งต่อจากเขา แต่แผนการดังกล่าวก็ถูกเลื่อนออกไป เปิดช่องให้ฝ่ายที่ต่อต้านการขึ้นสู่อำนาจของนายอันวาร์ ใช้ช่วงจังหวะดังกล่าวพยายามหาทางจัดตั้งกลุ่มแนวร่วมจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีพรรคของนายอันวาร์รวมอยู่ด้วย นำไปสู่ความระแวงและหมางใจระหว่างบุคคลทั้งสอง
ทั้งนี้ นายมหาธีร์ไม่ได้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเท่านั้น เขายังยื่นลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคเบอร์ซาตูที่เขาสังกัดอยู่ด้วย แต่คณะกรรมการพรรคได้ปฏิเสธการยื่นลาออกของเขา และยืนยันว่ามหาธีร์ยังไม่ได้ลาออกจากพรรคและไม่มีสมาชิกพรรคคนใดลาออกในช่วงเวลานี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า มหาธีร์ยังได้รับการสนับสนุนอย่างน้อยจาก 3 พรรคการเมืองที่เป็นกลุ่มแนวร่วมจัดตั้งรัฐบาล นอกจากนี้ สมาชิกบางคนในฝั่งฝ่ายค้านยังแสดงท่าทีให้การสนับสนุนเขาด้วย นายอิบราฮิม ซุฟฟีน ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเมอร์ดีกาของมาเลเซีย ให้ความเห็นว่า โอกาสยังเปิดกว้างสำหรับนายมหาธีร์ซึ่งขณะนี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ เขามีอิสระที่จะเลือกว่าจะร่วมงานกับใคร หรืออยากให้ใครเข้ามาร่วมทำงานในคณะรัฐบาล
ภายใต้รัฐธรรมนูญของมาเลเซียนั้น สมาชิกพรรคการเมืองใดก็ตามที่สามารถรวบรวมหรือครองเสียงข้างมากในสภา ก็สามารถใช้สิทธิ์นั้นในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งหลังจากนั้นสมเด็จพระราชาธิบดีจะเป็นผู้ให้พระบรมราชานุญาต และนายกรัฐมนตรีก็จะสาบานตนรับตำแหน่ง แต่ถ้าหากไม่มีพรรคใดสามารถครองเสียงข้างมาก (112 ที่นั่ง) ในสภา ทางออกหนึ่งก็คือการประกาศให้มีการการเลือกตั้งทั่วประเทศ
นายอันวาร์ยังไม่ได้ออกมายืนยันว่า เขาจะพยายามรวบรวมแนวร่วมในสภาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่หรือไม่ เขาเพียงแต่กล่าวว่าได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีแล้วเมื่อวันจันทร์เพื่อแสดงความคิดเห็นของเขา และขอรับพระราชทานคำแนะนำจากพระองค์เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ก.พ.) ค่าเงินริงกิตอ่อนลง 0.9% ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี สู่ระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 8 ปี ตลาดพันธบัตรก็อ่อนตัวลงเช่นกัน โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุไถ่ถอน 10 ปีปรับขึ้น 0.05% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 ทั้งนี้ มหาธีร์มีกำหนดการที่จะประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจมาเลเซียเพื่อรับมือกับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาในวันพฤหัสฯ (27 ก.พ.) ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่าท่ามกลางสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ เป็นเรื่องยากที่จะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติกลับคืนสู่มาเลเซียเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากกว่าและการเมืองมีสเถียรภาพมากกว่า