เรื่องเล่าหัวใจสลายที่สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์

02 ก.ค. 2563 | 20:00 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2563 | 06:25 น.

นับตั้งแต่ต้นปีมา การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” ทำให้ อุตสาหกรรมการบินของโลก เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง

 

การประกาศใช้มาตรการคุมเข้มการเดินทางและคัดกรองผู้เดินทางเข้าเมืองโดยนานาประเทศทั่วโลกเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ทำให้มีการยกเลิกเที่ยวบินและการเดินทางระหว่างประเทศแทบจะทั้งหมด อุปสงค์การบินลดวูบลง ขณะเดียวกัน สายการบินเองก็ต้องคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานและผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น เนื่องจากผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากเป็นผู้เดินทางระหว่างประเทศ พวกเขาสามารถเป็นได้ทั้งผู้ติดเชื้อและผู้แพร่เชื้อ และด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่สายการบินและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจึงเป็นอาชีพที่มีโอกาสสูงในการที่จะสัมผัสสัมพันธ์กับกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อ

เรื่องเล่าหัวใจสลายที่สายการบินเดลต้า แอร์ไลน์

ในการประชุมผู้ถือหุ้นของสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินของสหรัฐอเมริกา สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเมืองแอตแลนตา เมื่อปลายเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา นายเอ็ด บาสเตียน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยเรื่องราวน่าเศร้าใจเป็นครั้งแรกว่า พนักงานของสายการบินเดลต้าฯ ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 และพบว่า 500 คนผลตรวจออกมาเป็นบวก ซึ่งหมายความว่าพวกเขาติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเข้าให้แล้ว แม้ว่าข่าวดีก็คือ ส่วนใหญ่เข้ารับการรักษาและหายป่วยจากโรคร้ายดังกล่าว แต่ข่าวร้ายก็คือ มีพนักงานที่เสียชีวิตจำนวนถึง 10 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วิกฤติโควิด แอร์ไลน์  จอดนิ่ง50ลำ

ส่อง "การบินโลก" 4 เดือนหลัง โควิด

เอ็ด บาสเตียน ซีอีโอ เดลต้า แอร์ไลน์

“ทุก ๆข่าวการเสียชีวิตของพนักงาน เป็นข่าวร้ายที่ทำให้ผมหัวใจสลาย” ซีอีโอของเดลต้าฯ กล่าว และว่า บทเรียนจากประสบการณ์เลวร้ายครั้งนี้ก็คือ ทางสายการบินต้องให้ความสำคัญและเพิ่มการตรวจหาเชื้ออย่างกว้างขวางและทั่วถึงมากขึ้น เพื่อสามารถตรวจพบและเข้ารับการรักษาได้ไว ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายได้  

 

จนกระทั่งขณะนี้ พนักงานของเดลต้าฯ ราว 90,000 คนกำลังได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 “เมื่อใดก็ตามที่มีการตรวจหาเชื้อ เราก็จะสามารถหาวิธีป้องกันพนักงานของเราได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า สุดท้ายแล้วเราก็จะสามารถหาวิธีปกป้องดูแลผู้โดยสารของเราได้ดีขึ้นด้วย”       

 

ผู้บริหารของเดลต้า แอร์ไลน์ ยอมรับว่า ผลกระทบจากการที่ผู้คนกักตัวอยู่กับบ้านมากขึ้นและไม่เดินทางไปไหนโดยไม่จำเป็น รวมทั้งการที่หลายประเทศห้ามหรือจำกัดการเดินทางเข้าประเทศของผู้เดินทางจากบางประเทศหรือบางภูมิภาคที่เป็นพื้นที่เสี่ยง ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากต่อผลประกอบการของสายการบิน

ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา เดลต้าฯ ประกาศระงับทุกเที่ยวบินที่บินไปยังสนามบิน 10 แห่งอย่างไม่มีกำหนด โดยระบุว่าอย่างน้อยจะงดบินไปจนถึงเดือนก.ย. นี้   

 

“ยังไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้เลยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้จะทำให้เราต้องพับแผนธุรกิจที่วางไว้ได้เร็วแค่ไหน เพราะตอนนี้ความต้องการเดินทางทางอากาศในระยะอันใกล้ลดลงแทบจะเรียกได้ว่าเป็น 0 (ศูนย์) ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น”

 

เอ็ด บาสเตียน ซีอีโอของเดลต้า แอร์ไลน์ เขียนบทสรุปจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ว่า หนึ่ง ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ระยะเวลาและรูปแบบการฟื้นตัวของรายได้ ยังแขวนอยู่บนความไม่แน่นอน และ สอง สายการบินต้องเตรียมพร้อมรับความจริงที่ว่า อาจต้องใช้เวลา 2-3 ปีกว่าที่อุตสาหกรรมการบินจะกลับคืนสู่ภาวะปกติ และต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่า ภาวะปกติที่ว่านี้ จะเป็น “ความปกติแบบใหม่” หรือ new normal ที่รายได้ของสายการบินจะต่ำกว่า เมื่อเทียบกับฐานรายได้ของปี 2562 ช่วงก่อนที่โควิด-19 จะอุบัติขึ้น  

ข้อมูลอ้างอิง

Delta Airlines CEO says 500 employees have tested positive for COVID-19 and 10 died