โตเกียวคุมไม่อยู่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

28 พ.ย. 2563 | 01:11 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2563 | 08:21 น.

กรุงโตเกียว เมืองหลวงของญี่ปุ่น รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อยู่ที่ 570 รายวานนี้ (27 พ.ย.) ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสะท้อนถึงความรุนแรงของการระบาดรอบใหม่ ส่งผลให้รัฐบาลสั่งชะลอโครงการ "Go To Eat" หรือชิมช็อปใช้เวอร์ชันญี่ปุ่นเป็นการชั่วคราว

 

ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในกรุงโตเกียว ทำสถิติ ทะลุ 500 รายต่อวันอีกครั้ง โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับผู้ติดเชื้อที่พบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 พ.ย.) ซึ่งอยู่ที่ 593 ราย ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันในกรุงโตเกียวขณะนี้อยู่ที่ 8,567 ราย เพิ่มขึ้นจากระดับ 8,125 รายเมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมา

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในโตเกียวทำสถิติสูงสุดทะลุ 500 รายติดต่อกัน 3 วันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

     ตัวมาสคอตรณรงค์ให้ประชาชนร่วมใจกันเว้นระยะห่างทางสังคมและสวมใส่หน้ากากอนามัยในกรุงโตเกียว      

 

ขณะเดียวกันเมื่อวันพฤหัสฯที่ผ่านมา (26 พ.ย.) กรุงโตเกียวได้ยกระดับการเตือนภัยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สู่ระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุด โดยก่อนหน้านี้ได้เคยประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุดมาครั้งหนึ่งแล้วและเพิ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา แต่สถานการณ์ในปัจจุบันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ต้องตัดสินใจเตือนภัยขั้นสูงสุดอีกครั้งทั่วเขตกรุงโตเกียว

 

พร้อมกันนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้สั่งระงับการออกและจำหน่ายคูปองส่วนลดในโครงการ "Go To Eat" เป็นการชั่วคราว ซึ่งโครงการดังกล่าวรัฐบาลได้จัดขึ้นเพื่อเป็นกิจกรรมกระตุ้นให้ประชาชนออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านกันมากขึ้น ซึ่งจะเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยและสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ทั้งนี้ เหตุผลของการระงับกิจกรรมโครงการ Go To Eat ชั่วคราว ก็เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นให้อยู่หมัดเสียก่อน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ผลวิจัยชี้มาตรการล็อกดาวน์สกัดโควิดทำให้ผู้หญิงทั่วโลกตกงานเพิ่มขึ้น

ยูเอ็นเผย “ล็อกดาวน์” มีส่วนเพิ่มการใช้ความรุนแรงในครัวเรือน

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 61.9 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.8 แสนราย

 

ก่อนหน้านี้ นายนิชิมูระ ยาซูโตชิ รัฐมนตรีที่ดูแลการรับมือไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของญี่ปุ่น ได้หารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญ และระบุว่าช่วงเวลา 3 สัปดาห์นับจากนี้คือช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งยวดในการควบคุมการระบาดของไวรัสดังกล่าว ทั้งนี้ หากยังไม่มีสัญญาณใด ๆว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ก็จะพิจารณาประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นลำดับต่อไป

คณะผู้เชี่ยวชาญของรัฐบาลญี่ปุ่นเรียกร้องให้ดำเนินการอย่างเข้มงวดในช่วง 3 สัปดาห์นับจากนี้ โดยขอให้ประชาชนงดเว้นจากการเดินทางไปมาจากพื้นที่ที่ไวรัสกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะศึกษามาตรการที่เป็นไปได้ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดต่าง ๆ เพื่อควบคุมการติดเชื้อกำลังเพิ่มมากขึ้น

 

โตเกียวคุมไม่อยู่ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ต้นสัปดาห์นี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดเมืองโอซากา และเมืองซับโปโรบนเกาะฮอกไกโด ออกจากโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยว Go To Travel และงดจำหน่ายคูปองส่วนลดสำหรับการกินอาหารนอกบ้านในโครงการ Go To Eat เป็นการชั่วคราว

 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นได้ปรับปรุงกฎหมายควบคุมโรคระบาดเมื่อเดือนเม.ย. อนุญาตให้นายกรัฐมนตรีสามารถประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขได้ในทันที อย่างไรก็ตาม อำนาจตามกฎหมายทำได้เพียงขอร้องให้ประชาชนไม่ออกนอกบ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม สวมหน้ากากอนามัย รวมถึงขอให้ร้านค้าลดเวลาทำการโดยให้เงินชดเชย แต่ไม่สามารถใช้มาตรการลงโทษ ปรับเงิน สั่งหยุดกิจการ หรือล็อกดาวน์เมืองได้เหมือนในหลาย ๆประเทศทั่วโลก

 

สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่า พื้นที่ซึ่งมีอัตราการระบาดของโควิด-19 เป็นวงกว้างในขณะนี้ คือ จังหวัดโอซากา เฮียวโกะ (เมืองโกเบ) และเกียวโต ขณะที่ฮอกไกโดมีความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะล้นโรงพยาบาล เนื่องจากฮอกไกโดมีระบบสาธารณสุขที่ด้อยกว่าในเมืองใหญ่ ส่วนกรุงโตเกียวก็เพิ่งมีอัตราผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ 500 คนต่อวัน และจำนวนของผู้ป่วยอาการร้ายแรงก็กำลังเพิ่มขึ้น

นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการมหานครโตเกียว

นางยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่าการมหานครโตเกียว ประกาศว่าจะดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดในกรุงโตเกียว โดยขอให้ร้านอาหาร บาร์ และร้านคาราโอเกะที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ลดเวลาเปิดทำการลงเป็นเวลา 20 วัน โดยให้เริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 28 พ.ย.นี้

 

มาตรการดังกล่าวจะใช้กับสถานประกอบการใน 23 เขตของกรุงโตเกียวและพื้นที่ของเขตทามะ ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ผู้ประกอบการที่ปฏิบัติตามมาตรการนี้ จะได้รับเงินช่วยเหลือ 400,000 เยน หรือราว 120,000 บาท