อินเดียเจ๋ง จ่อขึ้นแท่นฐานผลิตวัคซีนโควิดใหญ่เบอร์สองของโลก

15 ก.พ. 2564 | 23:21 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.พ. 2564 | 23:45 น.

ขณะที่ฐานการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 รายใหญ่อันดับ1 ของโลกคือ สหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์เล็งว่า “อินเดีย” กำลังจะตีคู่มาเป็นอันดับ 2 จากศักยภาพในการผลิตที่มีอยู่

นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า อินเดีย น่าจะกลายเป็น ประเทศที่มีการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกา เพราะอินเดียมีความสามารถในการผลิตสูงมากจนเพียงพอต่อความต้องการของทั้งประเทศอินเดียเอง และประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นวัคซีนและผลิตเอง หรือการรับจ้างผลิตให้กับบริษัทต่างชาติ

 

นักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน ระบุในรายงานฉบับหนึ่งว่า วัคซีนส่วนใหญ่ที่ใช้กันทั่วโลกนั้นมาจากอินเดียอยู่แล้ว โดยก่อนที่จะเกิด วิกฤตโควิด-19 อินเดียผลิตวัคซีนราว 60% ของทั้งโลก และยังใช้ต้นทุนต่ำกว่าประเทศอื่นๆ จนได้รับฉายาว่าเป็น “โรงงานวัคซีนของโลก”

อินเดียเจ๋ง จ่อขึ้นแท่นฐานผลิตวัคซีนโควิดใหญ่เบอร์สองของโลก

ด้านนักวิเคราะห์จากดีลอยท์ คาดการณ์ว่า อินเดียน่าจะผลิตวัคซีนโควิดมากเป็นอันดับสองของโลก โดยคาดว่ากำลังการผลิตวัคซีนของอินเดียจะสูงกว่า 3,500 ล้านโดสในปีนี้ ซึ่งเท่ากับว่าเป็นรองแค่เพียงสหรัฐอเมริกาที่คาดว่าจะผลิตได้ประมาณ 4,000 ล้านโดส

 

สำหรับวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในอินเดียได้แล้วนั้น บริษัทภารัต ไบโอเทค ซึ่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชื่อ โควาซิน (Covaxin) ร่วมกับสภาวิจัยทางการแพทย์แห่งอินเดีย (ICMR) ได้ตั้งเป้าที่จะผลิตวัคซีนดังกล่าวให้ได้ 700 ล้านโดส ขณะที่วัคซีน “โควิชีลด์” (Covishield) ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้าร่วมวิจัยกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ซึ่งสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) รับหน้าที่ผลิตนั้น น่าจะผลิตได้เดือนละ 50 ล้านโดส และตั้งเป้าผลิตให้ได้เดือนละ 100 ล้านโดสตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป

 

นอกเหนือจากนั้น ยังมีบริษัทอินเดียอีกหลายรายที่ได้ทำข้อตกลงรับจ้างผลิตวัคซีนให้กับบริษัทต่างชาติรายอื่นๆ เช่น วัคซีน “สปุตนิก” (Sputnik) จากกองทุน RDIF ของรัสเซีย และวัคซีนของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อย่างไรก็ดี วัคซีนเหล่านี้ยังไม่ได้รับการอนุมัติการใช้ในอินเดีย

 

ข้อมูลอ้างอิง

India is set to become a vital Covid vaccine maker — perhaps second only to the U.S.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อิหร่านจ่อเผชิญการแพร่ระบาดใหญ่ของโควิดรอบที่ 4 หลังพบไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ

ยอดโควิด 15 ก.พ.64 ทั่วโลกผู้ป่วยเพิ่ม 2.78 แสนราย สะสม 109.36 ล้านราย

รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 15 ก.พ.64 แบบอัพเดทล่าสุด