คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเอกฉันท์ คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.00-0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ในวันนี้ (แต่เป็นคืนวันที่ 17 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ)
นอกจากนี้ เฟดได้ปรับเพิ่ม ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนถึงปี 2566 แม้มีการคาดการณ์ ความเสี่ยงภาวะเงินเฟ้อ ที่เพิ่มขึ้นก็ตาม
ขณะเดียวกัน เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์
แถลงการณ์หลังการประชุมของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน จนกว่าจะมีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และการมีเสถียรภาพด้านราคา
ทั้งนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2564 และ 2565 สู่ระดับ 6.5% และ 3.3% ตามลำดับ แต่ขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดตัวเลขการขยายตัวของ GDP ปี 2566 ลงสู่ระดับ 2.2% และเฟดได้คงตัวเลขคาดการณ์อัตราการขยายตัวของ GDP ในระยะยาวที่ระดับ 1.8%
เฟดยังได้คงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2564-66 อยู่ที่ระดับ 0.13% ทั้ง 3 ปี และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในระยะยาวที่ระดับ 2.5%
ขณะเดียวกัน เฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2564-66 สู่ระดับ 2.4%, 2.0% และ 2.1% ตามลำดับ และคงตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะยาวอยู่ที่ระดับ 2.0%
นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2564-66 สู่ระดับ 4.5%, 3.9% และ 3.5% ตามลำดับ และปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในระยะยาวสู่ระดับ 4.0%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง