บิตคอยน์ ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องใกล้หลุดระดับ 32,000 ดอลลาร์ (ราว 1,000,000 บาท) หลังจากที่ทางการ จีน ยังคง สกัดกั้นการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินคริปโต อย่างต่อเนื่อง ทำให้ ราคาบิตคอยน์ ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
เห็นชัดวานนี้ (21 มิ.ย.) บิตคอยน์ใกล้หลุดระดับ 32,000 ดอลลาร์ หลังมีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้แจ้งให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงิน ระงับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล
รายงานข่าวระบุว่า ธนาคารกลางจีนได้เรียกตัวแทนจากธนาคารหลายแห่งเข้าพบ ซึ่งรวมถึงธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China และธนาคาร Agricultural Bank of China รวมทั้งบริษัท อาลีเพย์ (Alipay) ผู้ให้บริการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในเครือของบริษัทแอนท์กรุ๊ปของอาลีบาบา โดยธนาคารกลางได้สั่งห้ามสถาบันการเงินเหล่านี้ให้บริการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต
ทางด้าน Alipay แถลงในวันเดียวกันนั้นว่า ทางบริษัทจะระงับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัลโดยทันที
นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้สั่งห้ามสถาบันการเงินและบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการชำระเงินให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2560 มีการออกคำสั่งห้ามการทำ ICO ( หรือ Initial Coin Offering คือการระดมทุนแบบดิจิทัลด้วยการเสนอขาย ดิจิทัลโทเคน (digital token) ให้คนที่สนใจและเชื่อว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จ)
นอกจากนี้ บิตคอยน์ยังถูกกดดันในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีรายงานว่า รัฐบาลจีนสั่งกวาดล้างเหมืองขุดบิตคอยน์ในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นแหล่งขุดบิตคอยน์ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน
หากย้อนหลังดูความเคลื่อนไหวของบิตคอยน์ จะพบว่า ราคาร่วงลงกว่า 20% แล้วในช่วง 6 วันที่ผ่านมา และ ทรุดตัวลงราว 50% จากที่เคยอยู่เหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ในเดือนเม.ย.
ล่าสุดเช้าวันนี้ (22 มิ.ย.) ราคาบิตคอยน์ยังดิ่งลงเกือบ 10% สู่ระดับ 32,094 ดอลลาร์ (ราว 1,014,000 บาท) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 วัน และเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 1 เดือน
ก่อนหน้านี้ บิตคอยน์เคยหลุดระดับ 32,000 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2564 หลังจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) สามารถยึดบิตคอยน์มูลค่ากว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นเงินที่บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ จ่ายเป็นค่าไถ่ให้แก่กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ จากเงินค่าไถ่ทั้งหมดราว 4.4 ล้านดอลลาร์
บิตคอยน์เคยทะยานเหนือระดับ 64,400 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในกลางเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา ขานรับวาระโอกาสที่บริษัท คอยน์เบส โกลบัล อิงค์ (Coinbase Global Inc.) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา เข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq
แต่หลังจากนั้นเพียง 1 เดือน ราคาบิตคอยน์ก็ดิ่งลงและหายไปกว่า 50% โดยไหลลงแตะระดับ 30,261 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2564 ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการเข้าควบคุมตลาดคริปโตของทางการจีนและสหรัฐ ประกอบกับการที่นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท เทสลา ประกาศงดรับบิตคอยน์ในการซื้อรถยนต์เทสลา โดยอ้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการขุดบิตคอยน์ต้องใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง