ฮ่องกงเสี่ยงเสียสถานะฮับการเงินให้สิงคโปร์ หลังคุมเข้มสกัดโควิดอย่างโหด

12 ต.ค. 2564 | 07:26 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ต.ค. 2564 | 14:40 น.

"ฮ่องกง" เสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะการเป็น "ศูนย์กลางการเงินของเอเชีย" ให้กับสิงคโปร์ หลังจากที่ผู้นำรัฐบาลยืนกรานจะคุมเข้มการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวอย่างเช่น ต่างชาติที่มาจากประเทศความเสี่ยงสูง จะต้องกักตัวถึง 21 วัน! แม้ฉีดวัคซีนแล้วก็ตาม

“ฮ่องกง” มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียสถานะ การเป็น ศูนย์กลางการเงิน หรือ regional financial hub ของเอเชีย ให้กับสิงคโปร์ หลังจากที่นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงส่งสัญญาณว่า รัฐบาลฮ่องกงจะยังคงใช้มาตรการควบคุมการเดินทางเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในขณะที่สิงคโปร์ได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการควบคุมต่าง ๆ ด้วยการเปิดให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วจาก 11 ประเทศเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว เริ่มมีผลในวันที่ 19 ตุลาคมนี้

 

นางแคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองพิเศษฮ่องกงให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กเมื่อวันจันทร์ (11 ต.ค.) ว่า แม้มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพียงรายเดียวก็อาจสร้างความวิตกกังวลอย่างมากในสังคม และรัฐบาลฮ่องกงมีหน้าที่ต้องปกป้องดูแลประชาชน

ฮ่องกงเสี่ยงเสียสถานะฮับการเงินให้สิงคโปร์ หลังคุมเข้มสกัดโควิดอย่างโหด

คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่า ฮ่องกงยังคงบังคับใช้ข้อกำหนดการเดินทางเข้าประเทศที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่จัดอยู่ในกลุ่ม "ความเสี่ยงสูง" ต้องเข้ารับการกักตัวเป็นเวลาถึง 21 วันในโรงแรมที่กำหนด แม้ได้รับวัคซีนครบโดสมาแล้วก็ตาม

 

ตรงข้ามกับสิงคโปร์ที่ประกาศว่าจะเปิดให้ผู้เดินทางที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบโดสแล้วจาก 11 ประเทศเดินทางเข้าสิงคโปร์ได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยโครงการดังกล่าวซึ่งสิงคโปร์ประกาศใช้กับผู้เดินทางจากบรูไนและเยอรมนีเมื่อเดือนที่แล้วนั้น จะขยายครอบคลุมอีก 9 ประเทศซึ่งได้แก่ อังกฤษ, แคนาดา, เดนมาร์ก, ฝรั่งเศส, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, เกาหลีใต้, สเปน และสหรัฐอเมริกา รวมเป็น 11 ประเทศ

 

การใช้มาตรการกักตัวที่เข้มงวด ส่งผลให้เกิดคำถามเกี่ยวกับอนาคตของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินของเอเชียเป็นอย่างมาก

ฮ่องกงเสี่ยงเสียสถานะฮับการเงินให้สิงคโปร์ หลังคุมเข้มสกัดโควิดอย่างโหด

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ต.ค.) โพสต์บนเฟซบุ๊กได้บ่งชี้ถึงความเบื่อหน่ายที่หลายคนรู้สึกในฮ่องกง โดยกลุ่มที่มีสมาชิก 55,000 คนเผชิญกับการกักตัว และมีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งโพสต์ข้อความว่า "ฉันเกิดและใช้ชีวิตอยู่ในเมืองอันสวยงามแห่งนี้มาเป็นเวลา 36 ปี แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถออกไปไหนได้เลย ฉันไม่สามารถยอมรับเรื่องแบบนี้ได้" โดยโพสต์ดังกล่าวมีคนกดไลค์มากกว่า 1 พันคน และมีผู้มาเข้ามาแสดงความเห็นอีกเกือบ 500 ความเห็น