นักวิทยาศาสตร์จาก ยูเครน เปิดเผยเมื่อเร็ว ๆนี้ว่า ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม จาก การรุกรานยูเครน ของ รัสเซีย ที่ชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่ง คือ ความตายของโลมา สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแห่งท้องทะเล ที่มีรายงานว่ามาเกยตื้นตายอยู่บนชายหาดหลายแห่งของทะเลดำ (ทะเลดำ หรือ Black Sea เป็นทะเลที่อยู่ระหว่างภูมิภาคยุโรปและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ มีประเทศบัลแกเรีย โรมาเนีย ยูเครน รัสเซีย จอร์เจีย และตุรกี อยู่ริมชายฝั่งทะเล) จำนวนมากถึง 50,000 ตัว
รายงานข่าวระบุว่า มีผู้พบ ซากโลมาตายเกยตื้น ที่ชายหาดทะเลดำในหลายประเทศ รวมทั้งตุรกี บัลแกเรีย โรมาเนีย และยูเครน นับตั้งแต่วันแรกที่เกิดสงครามรัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อต้นปี 2565
นายรัสลาน สตริเลทส์ รัฐมนตรีกระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรแห่งชาติของยูเครน ให้สัมภาษณ์สำนักข่าววีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐว่า เฉพาะในพื้นที่ของยูเครน ก็พบซากโลมาราว 150 ตัว และจากข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการจากผู้เชี่ยวชาญบางราย ระบุว่าตัวเลขของซากโลมาเหล่านี้อาจจะสูงถึงหลักหลายพันตัวเลยทีเดียว
เจ้าหน้าที่จากยูเครนเชื่อว่า เป็นการยากที่จะประเมินจำนวนโลมาที่ตายลงทั้งหมดอันเป็นผลสืบเนื่องจากสงครามที่เกิดขึ้น
โลมาในน้ำกับสงครามบนแผ่นดินเกี่ยวข้องกันอย่างไร
อีวาน รูเซฟ นักชีววิทยาจากอุทยานธรรมชาติแห่งชาติทัซลิฟสกี ลีมานี (Tuzlivski Lymani National Nature Park) เปิดเผยว่า ตัวเลขการตายของโลมา ดูเหมือนจะสูงจนน่าตกใจ และนักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่ามีโลมา ซึ่งเป็นสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมตายไปแล้วประมาณ 50,000 ตัวในช่วงที่เกิดการทำสงคราม
สาเหตุเป็นเพราะ “สัญญาณโซนาร์” จากเรือของทหารในพื้นที่ มีส่วนทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการสื่อสารของเหล่าโลมา โดยสัญญาณโซนาร์ที่มีพลังงานสูงได้ส่งผลกระทบรบกวนต่อ “ระบบการสื่อสารด้วยเสียง” ที่โลมาเหล่านี้ใช้งาน เมื่อการสื่อสารถูกรบกวน พวกมันจึงมีอาการคล้ายคนตาบอด
เกร็ก กลาส อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งฟลอริดา (University of Florida) แสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนโลมาที่ตายลง โดยระบุว่า การที่เราเห็นจำนวนโลมาตายเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ที่รัสเซียรุกรานยูเครน สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาร้ายแรงที่เกิดขึ้นอันเกิดจากสงครามที่มนุษย์เป็นผู้สร้าง
รูเซฟ นักชีววิทยาของยูเครน ยังชี้ไปที่ปัญหา “การระเบิดเหมือง” ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุการตายของเหล่าโลมา โดยเขาอธิบายว่า
“นักวิทยาศาสตร์ไม่เคยพบเห็นโลมาตายจำนวนมากขนาดนี้ในทะเลดำ นับเป็นจำนวนหลายร้อยหลายพันตัว โดยพวกมันมีชีวิตต่อไปได้เพียงไม่กี่วันหลังเกิดการกระทบกระเทือนอย่างหนักก่อนที่จะตายลง”
แม้จะพบซากโลมาจำนวนมาก แต่เจ้าหน้าที่ของยูเครนกล่าวว่า การช่วยชีวิตพวกมันในระหว่างสงครามเป็นสิ่งที่แทบจะเป็นไปไม่ได้
อย่างไรก็ดี พวกเขาตั้งความหวังที่จะสร้างศูนย์ฟื้นฟูพิเศษสำหรับโลมาขึ้นมา หลังสงครามที่ยืดเยื้อนี้สิ้นสุดลง...พวกเขาหวังเช่นนั้น