ใน การจัดอันดับเมืองใหญ่ ที่ ชาวต่างชาติ อยากย้ายมาพำนักและทำงานมากที่สุดในโลก (The most desirable cities for expats looking to relocate in 2024) ประจำปีนี้ ภายใต้รายงานในหัวข้อ “2024 Decoding Global Talent Report” ถอดรหัสความต้องการของคนทำงานมืออาชีพรุ่นใหม่ ซึ่งจัดทำโดย บอสตัน คอนซัลติง กรุ๊ป (Boston Consulting Group) หรือ BCG ผลปรากฏว่า ลอนดอน เมืองหลวงของอังกฤษ เป็นเมืองใหญ่ที่ได้รับผลโหวตมาเป็นอันดับ1 ขณะที่แถบเอเชียแปซิฟิก มี 9 เมืองใหญ่ที่ติด30 อันดับแรก โดย กรุงเทพฯ ของไทยเข้ามาเป็นอันดับที่ 17 ในมุมมองของชาวต่างชาติที่ย้ายเข้ามาพำนักเพื่อทำงาน
ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่อาศัยในต่างประเทศ หรือ expatriate ที่เรียกย่อๆว่า expat (เอ็กซ์แพต) นั้น คือผู้ที่ประกอบอาชีพหรือเป็นผู้มีแรงงานทักษะที่เข้าไปพำนักและทำงานอยู่ในต่างประเทศซึ่งไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง
รายงานของ BCG ซึ่งจัดทำร่วมกับ เดอะ เน็ตเวิร์ค (The Network) และ เดอะ สเต็ปสโตน กรุ๊ป (The Stepstone Group) ได้สอบถามความเห็นของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 150,000 คนใน 188 ประเทศ ระบุว่า
ในปัจจุบัน 1 ใน 4 ของคนทำงาน ใฝ่ฝันที่จะได้ไปทำงานในต่างประเทศทั่วโลก แม้ว่าอาจจะมีความห่วงกังวลเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศอยู่บ้าง แต่ผู้คนก็ยังคงแสวงหาช่องทางและโอกาสที่จะไปทำงานในต่างประเทศ โดยสัดส่วนของคนทำงานที่โยกย้ายไปทำงานในต่างแดนเมื่อปี 2023 มีจำนวนคิดเป็น 23% ของคนทำงานทั้งหมด เพิ่มจาก 21% ในปี 2020
“มีคนทำงานราว 800 ล้านคนทั่วโลกที่กำลังมองหางานทำในต่างประเทศ” รายงานซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมาระบุ โดยพวกเขาให้เหตุผลหลักๆ ประมวลได้ 3 ข้อ ดังนี้ 1)เพื่อหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า 2)เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพการงาน และ3)เพื่อโอกาสของคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สำหรับ 10 เมืองใหญ่ที่ได้รับการโหวตเป็น “จุดหมายปลายทาง” ที่ชาวต่างชาติคนทำงานมืออาชีพอยากย้ายมาทำงานมากที่สุด 10 อันดับแรกของโลกในปี 2024 ได้แก่
ทั้งนี้ อันดับหนึ่งอย่าง “ลอนดอน” ครองแชมป์มานานนับตั้งแต่ปี 2014 แล้ว ซึ่งเป็นปีแรกที่มีการจัดทำรายงานและจัดอันดับดังกล่าว สำหรับปีนี้ ผู้ตอบคำถามการสำรวจ 9% เทใจให้มหานครลอนดอน โดยตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจดังกล่าว เป็นเพราะ
สำหรับเมืองใหญ่ในโซนเอเชีย การจัดอันดับปีนี้ มี 9 เมืองใหญ่ได้เข้าไปอยู่ใน 30 อันดับแรกของโลก ดังนี้ (ในวงเล็บคืออันดับที่ได้รับ)
สิงคโปร์นั้นเป็นชาติเอเชียที่ติดอันดับมาหลายปี ปีนี้อยู่ในอันดับที่ 7 ของโลก สะท้อนเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของสิงคโปร์ในการเป็นแม่เหล็กดึงดูดคนทำงานมืออาชีพที่มีทักษะมาจากประเทศใกล้เคียง เช่น มาเลเซีย (มีสัดส่วนคิดเป็น 30%ของคนทำงานต่างชาติในสิงคโปร์) ไทย (22%) อินโดนีเซีย (19%) ฟิลิปปินส์ (14%) และฮ่องกง (13%)
ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ (57%) ของผู้ตอบคำถามการสำรวจ ชอบสิงคโปร์เพราะมีทั้งโอกาสสร้างรายได้ที่ดี พอๆกับที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมากกว่า 55% ให้คะแนนสิงคโปร์เพราะความปลอดภัย และความมั่นคงทางการเมือง
ข้อมูลอ้างอิง