“สงครามยูเครน-อิสราเอล” ประเด็นร้อนไฟลุกในการประชุม G7 ซัมมิตที่อิตาลี
ประเด็นหลักๆที่เป็นไฮไลท์ในเวทีการประชุมระดับผู้นำของกลุ่มจี7 ที่ประเทศอิตาลีปลายสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นเรื่องของสงคราม ทั้งในยูเครนและฉนวนกาซา
ผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมของโลก ภายใต้ชื่อ กลุ่มจี7 (G7) เห็นชอบและให้การรับรองร่างข้อตกลงจัดหาเงินกู้ยืมจำนวน 50,000 ล้านดอลลาร์ให้กับ ยูเครน ในการประชุมที่ประเทสอิตาลีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (13 มิ.ย.) โดยจะใช้รายได้ดอกเบี้ยจากสินทรัพย์รัสเซียมูลค่าราว 300,000 ล้านดอลลาร์ที่ถูกอายัดไว้ตามสถาบันการเงินชาติตะวันตกต่าง ๆ หลังสงครามที่เกิดจากการที่กองทัพมอสโกบุกรุกรานประเทศยูเครน เริ่มขึ้นเมื่อต้นปี 2022
ข้อตกลงดังกล่าวเป็นประเด็นหารือหลักในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี7 วันแรก ซึ่งมีประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เข้าร่วมเป็นปีที่ 2 แล้ว
ความต่อเนื่องในการให้เงินกู้ช่วยยูเครน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รายละเอียดของแผนเงินกู้ดังกล่าวน่าจะได้ข้อสรุปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เจ้าหน้าที่อาวุโสรายหนึ่งของสหรัฐอเมริกากล่าวว่า สหรัฐได้ตกลงจะจัดหาเงินกู้ก้อนดังกล่าวด้วยตนเองแล้ว แต่สุดท้ายตัวเลขที่สหรัฐจะนำเสนอน่าจะลดลงอย่างมาก เพราะประเทศอื่น ๆ ตกลงจะเข้าช่วยด้วย
วัตถุประสงค์ของการจัดงบเงินกู้ช่วยเหลือยูเครนครั้งนี้ ก็คือเพื่อให้มั่นใจว่า การสนับสนุนทางการเงินให้กับยูเครน จะเดินหน้าต่อไปได้อีกหลายปี ไม่ว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำจี7 หลังจากนี้ ซึ่งรายงานข่าวอ้างบุคคลที่ใกล้ชิดกับการหารือระบุว่า ประเด็นนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลว่า หากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งในปลายปีนี้ สหรัฐอาจไม่สนใจช่วยยูเครนมากนัก
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดน และปธน.เซเลนสกี ยังได้ลงนามในข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์เพื่อประสานความร่วมมือทวิภาคีเป็นระยะเวลา 10 ปี ในพิธีที่จัดขึ้นนอกรอบการประชุมสุดยอดจี7 ซึ่งมีเป้าหมายยืนยันพันธกรณีของรัฐบาลสหรัฐในอนาคต ว่าจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไปด้วย
“สหรัฐจะไม่ส่งทหารอเมริกันไปรบในยูเครน แต่จะสนับสนุนด้านอาวุธ ข่าวกรองและการฝึกอบรม” ปธน.ไบเดนกล่าว
รอยเตอร์ยังรายงานด้วยว่า ผู้นำยูเครนจะลงนามในข้อตกลงความมั่นคงระยะยาวฉบับใหม่กับญี่ปุ่นในระหว่างการประชุมครั้งนี้ด้วย
ข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา
ข้อตกลงหยุดยิงของสงครามในฉนวนกาซาที่ยังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นอีกหนึ่งประเด็นร้อนที่ผู้นำสหรัฐต้องเผชิญในการประชุมสุดยอดผู้นำจี7
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาวสหรัฐ กล่าวระหว่างเดินทางจากสหรัฐไปอิตาลีว่า ผู้นำจี7 ให้ความสำคัญกับประเด็นการหยุดยิงในฉนวนกาซา และการนำพาตัวประกันทั้งหมดกลับบ้านภายใต้ข้อตกลงที่สหรัฐนำเสนอ เขาย้ำว่า ปธน.ไบเดนได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากผู้นำจี7 ทุกคน
แต่ถึงแม้กลุ่มจี7 จะสนับสนุนการหยุดยิงในกาซา ผู้นำประเทศสมาชิกทั้งหมดกลับไม่ได้เห็นพ้องต้องกันในทุกรายละเอียด เช่น ประเด็นการตัดสินใจของศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก เมื่อเดือนที่แล้วในการเดินหน้าขอออกหมายจับผู้นำกลุ่มฮามาสและนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล
ซึ่งในประเด็นดังกล่าว สหรัฐได้ออกโรงประณามการตัดสินใจของศาลโลก ขณะที่อังกฤษบอกว่าการตัดสินใจของศาลโลก “ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
อย่างไรก็ตาม ฝรั่งเศสสนับสนุนศาลอาญาโลกในการ “ต่อสู้กับการไม่ต้องรับโทษ” ขณะที่เยอรมนีกล่าวว่า ตนพร้อมจับกุมเนทันยาฮูทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในประเทศเยอรมนี หากมีการออกหมายจับจริง
นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ไม่เห็นด้วยกับรายงานของสหประชาชาติที่เปิดเผยออกมาเมื่อวันพุธและกล่าวอ้างว่า ทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างก่ออาชญากรรมสงคราม และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างรุนแรง
“เราแสดงจุดยืนของเราชัดเจนไปแล้ว” ซึ่งเป็นความเห็นที่อ้างอิงรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐซึ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อเดือนเมษายนและสรุปว่า แผนงานทางทหารของอิสราเอลไม่ได้ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” ซัลลิแวนกล่าวกับวีโอเอ สื่อใหญ่ของสหรัฐ
นอกจากนั้น ซัลลิแวนบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้นำจี7 จะหารือประเด็นความตึงเครียดตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอนด้วย ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่จะมีการหารือยังได้แก่ ภัยคุกคามจากอิหร่านที่ยังดำเนินอยู่ ทั้งในเรื่องที่รัฐบาลเตหะรานสนับสนุนกองกำลังตัวแทนในการทำสงคราม และเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเองด้วย