เสียงปืนปัง ปัง ปัง และภาพของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ผู้นำทางการเมืองที่ล้มลงกับพื้น พร้อมกับเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองที่รีบวิ่งเข้าไปปกป้องเขา สร้างความสั่นสะเทือนให้กับประเทศซึ่งเคยแตกแยกอย่างรุนแรงมาแล้วในช่วงเวลาที่ตึงเครียดที่สุดช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ยุคใหม่
ผู้นำโลกหลายคนออกมาประณามเหตุยิงกันที่งานหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งอดีตประธานาธิบดีถูกยิงที่หูขวา ขณะที่ผู้เข้าร่วมงานหาเสียง 1 รายและคนร้ายเสียชีวิต
ผู้นำจากหลายประเทศแสดงความตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประณามความรุนแรงทางการเมือง และอวยพรให้ทรัมป์ฟื้นตัวในเร็วๆ นี้
โฆษกของ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ประณามเหตุการณ์ยิงดังกล่าวและเรียกว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงทางการเมือง
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นฟูมิโอะ คิชิดะ กล่าวว่า เราต้องยืนหยัดมั่นคงต่อต้านความรุนแรงทุกรูปแบบที่เป็นการท้าทายประชาธิปไตย
เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า รู้สึกตกตะลึงกับฉากที่น่าตกใจ ที่เกิดขึ้นในการชุมนุม ความรุนแรงทางการเมืองในรูปแบบใดๆ ไม่ควรเกิดขึ้นในสังคม และขอส่งความคิดถึงไปยังเหยื่อของการโจมตีครั้งนี้ทุกคน
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโทนี อัลบาเนซี กล่าวว่า เหตุยิงดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ากังวล
ขณะที่นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด กล่าวว่าเรื่องนี้ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ทรูโดความรุนแรงทางการเมืองเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
ผู้นำของประเทศไทย ไต้หวัน นิวซีแลนด์ และฟิลิปปินส์ ก็ได้แสดงความเห็นทำนองเดียวกันนี้เช่นกัน
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงดังกล่าวทำให้เขาตกตะลึง
วิกเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี ซึ่งได้พบกับทรัมป์เมื่อสัปดาห์นี้ระหว่างการเยือนสหรัฐฯ เพื่อร่วมประชุมสุดยอดนาโต กล่าวว่า ขอส่งคำอธิษฐานไปยังอดีตประธานาธิบดีในช่วงเวลาอันมืดมนนี้
ประธานาธิบดีบราซิล ลูอีซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา กล่าวว่า การโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องได้รับการปฏิเสธอย่างรุนแรงจากผู้ปกป้องประชาธิปไตยและการเจรจาทางการเมือง สิ่งที่เห็นในวันนี้ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
นายกรัฐมนตรีอินเดีย เรนทรา โมดี อวยพรให้ทรัมป์หายป่วยโดยเร็ว พร้อมกล่าวว่า ขอประณามเหตุการณ์นี้อย่างแรง ความรุนแรงไม่ควรมีอยู่ในทางการเมืองและประชาธิปไตย
ชาวอเมริกันหวั่นวิตกกับความรุนแรงทางการเมืองที่เพิ่มมากขึ้นจากการสำรวจล่าสุดของ Reuters/Ipsos พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจในเดือนพฤษภาคม 2 ใน 3 คนระบุว่า หวั่นวิตกถึงความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งทรัมป์จากพรรครีพับลิกันจะต้องเผชิญหน้ากับประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต
ที่มา