สหรัฐฯ ประณาม "อิหร่าน" โจมตี "อิสราเอล" ลั่นเป็นการกระทำที่รับไม่ได้

02 ต.ค. 2567 | 05:06 น.
อัพเดตล่าสุด :02 ต.ค. 2567 | 05:48 น.

ผู้นำสหรัฐฯ หนุน "อิสราเอล" ร่วมประณาม "อิหร่าน" ลั่น เป็นการกระทำที่ยอมรับไม่ได้ หลังโจมตีด้วยขีปนาวุธร้ายแรง

สถานการณ์สงครามตะวันออกกลางระหว่าง "อิหร่าน" และ "อิสราเอล" ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันมานี้ หลังจากอิหร่านประกาศยุติการโจมตีด้วยขีปนาวุธต่ออิสราเอล แต่การตัดสินใจนี้ไม่ได้ทำให้ความตึงเครียดลดลงตามที่คาดหวัง เนื่องจากอิสราเอลและสหรัฐฯ ยังคงเตรียมพร้อมตอบโต้การกระทำของเตหะราน ซึ่งมีความกังวลว่าการปะทะกันครั้งใหญ่ในภูมิภาคอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

เมื่อเช้าวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา อิหร่านได้ทำการยิงขีปนาวุธกว่า 180 ลูกเข้าโจมตีพื้นที่ต่างๆ ในอิสราเอล โดยอ้างว่าเป็นการป้องกันตัวจากการโจมตีฐานทัพของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน

เครดิตภาพ Reuters

การโจมตีครั้งนี้ทำให้ระบบเตือนภัยฉุกเฉินของอิสราเอลดังขึ้นทั่วประเทศ และประชาชนในพื้นที่เสี่ยงถูกสั่งอพยพเข้าไปยังที่หลบภัยโดยทันที แม้ว่าจะไม่มีรายงานการเสียชีวิต แต่สร้างความเสียหายทางโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่

ทางฝั่งสหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่า การโจมตีของอิหร่านนั้นจะต้องเผชิญกับ "ผลร้ายแรง" ที่จะตามมาและประกาศสนับสนุนอิสราเอลในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่าการกระทำของอิหร่านนั้น "เป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้" และอาจมีการตอบโต้กลับ

กมลา แฮร์ริส ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 ได้แสดงจุดยืนสนับสนุนโจ ไบเดนเกี่ยวกับการประณามอิหร่าน โดยได้กล่าวว่าอิหร่านเป็น "ภัยคุกคาม" และเป็น "แรงกระตุ้นที่ไม่มั่นคง" ในตะวันออกกลาง และยืนยันการสนับสนุนความมั่นคงของอิสราเอล ซึ่งเป็นท่าทีที่สอดคล้องกับนโยบายของไบเดนที่มุ่งเน้นการป้องกันการโจมตีของอิหร่านและการส่งเสริมความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อรับมือกับอิหร่าน

เครดิตภาพ Reuters

ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประกาศว่า "อิหร่านจะต้องชดใช้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น"

การโจมตีของอิหร่านเป็นการตอบสนองต่อการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเลบานอน ซึ่งมีการโจมตีอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า อิสราเอลได้โจมตีทางอากาศใส่เขตชานเมืองเบรุต ส่งผลให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้น

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้จัดการประชุมพิเศษเพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์สงครามตะวันออกกลาง โดยมีการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดการปะทะทันที โดยหัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ ได้แสดงความกังวลว่าสถานการณ์นี้อาจบานปลายไปสู่การปะทะกันครั้งใหญ่หากไม่มีการยับยั้ง

ด้านฝรั่งเศสได้เริ่มเคลื่อนกำลังทหารในภูมิภาคตะวันออกกลางเพื่อรักษาความมั่นคงและป้องกันไม่ให้เกิดการปะทะที่รุนแรงมากขึ้น ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ได้ประณามการโจมตีของอิหร่าน แต่ยังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางแก้ไขความขัดแย้งผ่านการเจรจา

เครดิตภาพ Reuters

นายอับบาส อารัคชี รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านพร้อมที่จะยุติการโจมตีต่ออิสราเอล หากอิสราเอลหยุดการกระทำที่เป็นการยั่วยุเพิ่มเติม ซึ่งหากมีการตอบโต้ อิหร่านย้ำจะโจมตีอย่างรุนแรงมากกว่าเดิม

แม้จะมีความพยายามในการยับยั้งการขยายตัวของความขัดแย้ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าเหตุการณ์ในตะวันออกกลางจะคลี่คลายลงในเร็วๆ นี้ หลายฝ่ายในประชาคมระหว่างประเทศยังคงจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ความกังวลว่าวิกฤตการณ์นี้จะกลายเป็นการปะทะในวงกว้างยังคงเพิ่มขึ้น