รอยเตอร์รายงานว่า ยูเครนได้ใช้ขีปนาวุธ ATACMS ของสหรัฐฯ โจมตีดินแดนรัสเซียเมื่อวันอังคาร หลังจากได้รับอนุญาตจากรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ซึ่งกำลังจะพ้นวาระ โดยเป็นการโจมตีในวันครบรอบ 1,000 วันของสงคราม
รัสเซียรายงานว่ากองทัพสามารถยิงสกัดขีปนาวุธได้ 5 จากทั้งหมด 6 ลูกที่ยิงเข้าใส่สถานที่ทางทหารในภูมิภาคบรียันสก์ โดยเศษซากขีปนาวุธ 1 ลูกตกใส่สถานที่ดังกล่าว ทำให้เกิดไฟไหม้แต่ดับได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือความเสียหาย
ด้านยูเครนระบุว่าได้โจมตีคลังอาวุธของรัสเซียซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในรัสเซียประมาณ 110 กิโลเมตร การโจมตีครั้งนี้ทำให้เกิดการระเบิดต่อเนื่อง แม้กองทัพยูเครนไม่ได้ระบุชนิดของอาวุธที่ใช้ แต่แหล่งข่าวจากรัฐบาลยูเครนและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่าเป็นการใช้ขีปนาวุธ ATACMS
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่ารัสเซียสกัดได้ 2 ลูกจากทั้งหมด 8 ลูก และเป้าหมายคือจุดส่งกำลังบำรุงกระสุน ประธานาธิบดีไบเดนได้อนุมัติให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลที่สุดที่วอชิงตันจัดหาให้ สำหรับการโจมตีภายในรัสเซีย
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่าการใช้ ATACMS เป็นสัญญาณชัดเจนที่แสดงว่าชาติตะวันตกต้องการยกระดับความขัดแย้ง
มอสโกระบุว่าอาวุธเหล่านี้ไม่สามารถยิงได้โดยปราศจากการสนับสนุนการปฏิบัติการโดยตรงจากสหรัฐฯ และการใช้อาวุธดังกล่าวจะทำให้วอชิงตันกลายเป็นผู้ร่วมรบโดยตรงในสงคราม ซึ่งจะนำไปสู่การตอบโต้จากรัสเซีย
การโจมตีเกิดขึ้นในขณะที่ยูเครนครบรอบ 1,000 วันของสงคราม โดยหนึ่งในห้าของดินแดนยังอยู่ในมือรัสเซีย และมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกในอนาคต เนื่องจากโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังจะกลับเข้าสู่ทำเนียบขาว
ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ลงนามในหลักการนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการเตือนถึงวอชิงตัน โดยลดเกณฑ์การใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย ให้รวมถึงการตอบโต้การโจมตีที่คุกคามบูรณภาพแห่งดินแดนของรัสเซีย
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่าการพัฒนาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปูตินไม่สนใจสันติภาพ และย้ำว่ายูเครนต้องทำทุกอย่างเพื่อให้สงครามยุติลงด้วยวิธีการทางการทูตในปีหน้า