มหาเถรสมาคม ให้ทุกวัดทั้งในและนอกราชอาณาจักร แสดงพระธรรมเทศนา เรื่อง "วชิโรปมกถา ว่าด้วยปัญญาประดุจเพชร" เฉลิมพระเกียรติในหลวงเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2567
พระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรตินี้ ประพันธ์โดย พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธัมมจิตโต ปธ.9 ศ.ดร.) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาส โดยมหาเถรสมาคมตรวจแก้ ในการประชุมครั้งที่ 12/2567 เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2567
ขอสรุปเนื้อหาและใจความพระเทศนา ดังต่อไปนี้
การจัดแสดงพระธรรมเทศนา วชิโรปมกถา ว่าด้วยปัญญาประดุจเพชร เพื่อเป็นเครื่องประคองฉลองศรัทธาประชาชน ให้ร่วมอนุโมทนาและบำเพ็ญกุศล ในส่วนธัมมัสสวนมัย เพื่อถวายพระพรชัยมงคล พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของปวงชน ทั้งนี้เพราะพระองค์ มีอัตตหิตสมบัติ หมายถึงความพร้อมแห่งคุณสมบัติส่วนพระองค์ที่พระบุญญาธิการ หนุนส่งให้ทรงมีกำลังของมหาบุรุษ 5 ประการ
ในบรรดาพละทั้ง 5 ปัญญาพละถือว่าสำคัญที่สุด เพราะสามารถใช้เป็นเครื่องกำกับควบคุมและนำทางในการแก้ปัญหาต่างๆได้
จึงสอดคล้องกับพระปฐมบรมราชโองการ ที่พระราชทานไว้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อพ.ศ. 2562 ว่า เราจะสืบสานรักษาและต่อยอดและครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ตามพระปฐมบรมราชโองการคือต่อยอดสืบสานโครงการต่างๆ ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงริเริ่มไว้หลายประการด้วยกัน
นอกจากนั้นก็ยังทรงมีพระราชดำริโครงการอื่นๆ เป็นการต่อยอดขึ้นมาอีกหลายโครงการด้วยกัน ที่เป็นดังนี้เพราะทรงครองแผ่นดินโดยธรรม ทรงมีพละปัญญา สามารถปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน โดยไม่มีอุปสรรค เพราะทรงพระปัญญาประดุจเพชร ดังพุทธภาษิตว่า
วชิรัสสะ นัตถิ กิญจิ อเภชชํ มณิ วา ปาสาโณ วา แปลว่า ไม่มีแก้วมณีหรือก้อนศิลาใดที่ตัดเพชรได้
อย่างไรก็ตามมหาบุรุษ นอกจะมีปัญญาประดุจเพชรแล้วต้องมีความกรุณาด้วย เช่นผู้มีบุญมีอำนาจ อยู่บนประสาทที่สูงมองลงมาเห็นผู้มีความทุกข์ก็เกิดความกรุณาที่จะช่วยเหลือ ในที่นี้ ผู้ประพันธ์ยกเรื่องการเสียสละชีวิตของพญากวาง เพื่อช่วยเหลือกวางท้องแก่ ไม่ให้ถูกสังหารเป็นอุทาหรณ์
พระธรรมเทศนา สรุปว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นมหาบุรุษ ผู้พร้อมด้วย อัตตหิตสมบัติ คือกำลังแห่งพระปัญญาประดุจเพชร และทรงบำเพ็ญพระหิตะปฏิบัติ ด้วยอำนาจแห่งพระมหากรุณา จึงทรงตั้งพระราชปณิธานที่จะสืบสานและรักษา และต่อยอดพระราชกรณียกิจของพระราชบุพการีและสมเด็จบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า เพื่ออำนวยประโยชน์ต่อประชาชนราษฎรตลอดไป
ดังนั้นในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 รัฐบาลพร้อมด้วยคณะสงฆ์และประชาชนทุกหมู่เหล่าจึงมีสมานฉันท์พร้อมใจกันแสดงออกเป็นความปีติโสมนัสและจงรักภักดีด้วยการทำความดีมีประการต่างๆ เพื่อน้อมถวายพระพรชัยมงคล
ขอทรงพระเจริญ