*** ทันทีที่ บริษัท หลักทรัพย์ จีเอ็มโอ-แซด คอม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com ออกประกาศว่าจะขายทอดตลาดหุ้น บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIME ทำให้เจ๊เมาธ์นึกย้อนกลับไปถึงบทความเก่าที่เจ๊เคยพูดเอาไว้ว่า วันหนึ่งเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้น เปรียบเหมือนการโยนอุนจิให้ผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือ นักลงทุนรับกรรม หลังจากอิ่มตัวกันไปแล้ว หลังการเอาหุ้นไปค้ำประกันบัญชีมาร์จิ้น....
ครั้งนี้ทาง Z.com แจ้งระบุว่า จะดำเนินการขายหุ้น PRIME จำนวน 7 รายการ รวมเป็นหุ้น 1,348,572,500 หุ้น ซึ่งเป็นหุ้นที่ทาง Z.com ได้รับ “จำนำ” เป็นประกันหนี้ตามสัญญากู้ยืมตั้งแต่ปี 2564-2566 และ “ลูกหนี้ผิดนัดชำระหนี้” ตามสัญญาและไม่ชำระหนี้ภายในกำหนดเวลาที่เจ้าหนี้มีหนังสือบอกกล่าวทวงถาม แจ้งการบังคับจำนำ โดยกำหนดจะขายทอดตลาดหุ้น ในวันที่ 4 ธ.ค. 2567 ซึ่งจะทำให้มีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
เรื่องแรก คือ การที่ทาง Z.com ระบุเอาไว้ชัดเจนว่าราคาเริ่มต้นผู้ขายทอดตลาด (Z.com) จะกำหนดราคาเริ่มต้นการขายหุ้น PRIME ตามที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ราคาซื้อขายในท้องตลาด รวมถึงความเหมาะสมประการอื่นๆ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า Z.com ได้ยอดรับความเสี่ยงที่จะขาดทุนจากการขายหุ้นในครั้งนี้ ในทุกรูปแบบขอเพียงแค่ให้ขายหุ้นออกได้ก็เป็นพอ
เรื่องที่สอง คือ การที่ระยะเวลาที่ทาง Z.com ทำการรับจำนำหุ้นอยู่ในช่วงปี 2564-2566 ซึ่งตอนนั้นราคาหุ้น PRIME เคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับราคา 1.8-2.00 บาท ขณะที่ราคาหุ้นหน้ากระดานของ PRIME ในปัจจุบันเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับราคา 0.22-0.25 บาท
นั่นก็หมายความว่า Z.com อาจจะต้องขาดทุนไปราว 60-80% จากราคาต้นทุน หรือ คิดเป็นเงินราว 6-700 ล้านบาท (กรณีที่คิดราคารับจำนำอยู่ 30% ของราคาหุ้นหน้ากระดานในวันที่วางหุ้นและราคาเสื่อม (Dilution) ที่จะอยู่ในราว -30% ณ วันที่ดำเนินการขายหุ้นทอดตลาด)
เรื่องที่สาม คือ การที่ผู้ถือหุ้นรายย่อยที่ติดดอยหุ้นของ PRIME นับตั้งแต่วันที่มีการจำนำหุ้น และยังออกไม่ได้ หรือ อาจจะเกิดความเสียหายไปแล้ว เพราะการตัดขายแบบยอมขาดทุน ในกรณีนี้เจ๊เมาธ์ก็พูดไปหลายรอบว่า การหาเงินด้วยการปล่อยมาร์จิ้นให้กับบริษัทที่มีแนวโน้มและความเสี่ยงเพื่อหวังรายได้และค่าคอมฯ โดยที่ไม่พิจารณาข้อมูลให้ละเอียด ก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้นักลงทุนรายย่อยถูกรังแกแบบไร้ “จริยธรรม” เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นได้ง่ายดายเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม เจ๊เมาธ์ก็เชื่อไม่ต่างไปจากกูรูท่านอื่นๆ ที่มองว่าปัญหาของ Z.com จะยังไม่จบลงเพียงกรณีของ PRIME เนื่องจากนับตั้งแต่เริ่มดำเนินกิจการพบ ว่าทาง Z.com เข้าไปมีส่วนในการปล่อยมาร์จิ้นให้กับ “หุ้นตลาดวาย” หลายตัว ซึ่งหุ้นหลายตัวที่ว่านี้มีปัญหาความน่าเชื่อถือ จนทำให้ต้องเรียกหลักทรัพย์เพิ่ม หรือไม่ก็บังคับขายหุ้น (Force Sell) เพื่อป้องกันความเสียหาย
ขณะเดียวกันเจ๊เมาธ์ก็เชื่อว่า ยังมีหุ้นอีกหลายตัวที่อาจจะต่อคิว ที่จะถูกขายทอดตลาดออกมาเช่นเดียวกับ PRIME ซึ่งประเด็นสำคัญก็คือเรื่องของการ “ทบทวน” การให้บริการมาร์จิ้น ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่ทาง Z.com ยังไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้นั่นเอง
ท้ายที่สุด...แม้ว่าทาง Z.com จะเคยแจ้งว่า “บริษัทจะไม่ปิดกิจการอย่างแน่นอน” แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า วิบากกรรมของ Z.com ก็น่าจะยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ ใครจะไปรู้ว่าการ "เพิ่มทุน" หรือ "ขายกิจการ" จะไม่เกิดขึ้นในอนาคต