*** ภายหลังที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น หรือ EGM มีมติอนุมัติการควบบริษัทระหว่าง GULF กับ INTUCH โดยหลังควบรวมเสร็จสิ้น จะจัดตั้งบริษัทใหม่ (Newco) เพื่อจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป
พร้อมกันนี้ภายในไตรมาส 4/67-1/68 ทางฝั่งของ GULF จะเข้าทำธุรกรรมซื้อหุ้น ADVANC ที่เหลืออีก 36.25% ที่ราคา 216.30 บาท/หุ้น และซื้อหุ้น THCOM ที่เหลืออีก 58.86% ที่ราคา 11 บาท/หุ้น โดยไม่เพิกถอน ADVANC และ THCOM ออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
ว่าแต่หลังควบรวมกิจการของ GULF และ INTUCH แล้วทำไมต้องมีการตั้งโต๊รับซื้อหุ้นของ ADVANC และ THCOM เพิ่มเข้ามาอีก!!!
สาเหตุแรก ก็เพื่อเป็นการดำเนินการแทนบริษัทใหม่ (Newco) ที่จะตั้งขึ้น ซึ่งทาง GULF เป็นผู้มีหน้าที่ในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC และ THCOM อันเป็นหน้าที่ตามกฎหมาย ที่เกิดขึ้นจากผลของธุรกรรมการควบรวมบริษัท
สาเหตุที่สอง เป็นเพราะการที่ทาง GULF มีหุ้นของ THCOM ติดมือในสัดส่วนราว 41% มาเป็นสินสมรสในขณะที่ทางฝั่งของ INTUCH ก็มีทาง ADVANC เป็นสินสมรสในสัดส่วนราว 40% ดังนั้นการต่อยอดจากการควบรวมมาเป็นการรวบยอดจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
สาเหตุที่สาม เป็นเพราะแนวทางธุรกิจของ “เจ้าสัวกลาง” สารัชถ์ รัตนาวะดี ที่มุ่งเข็มทิศทางธุรกิจสู่ระบบโครงสร้างพื้นฐานประเทศเป็นหลัก ทำให้การลงทุนเข้าไปถือหุ้นใหญ่อยู่ใน INTUCH THCOM และ ADVANC กลายเป็นทางลัดที่จะต่อยอดธุรกิจที่ว่ามาให้สำเร็จเป็นไปได้อย่างครบวงจรมากที่สุด
นอกจากนี้ การควบรวมกิจการของ GULF และ INTUCH ยังทำให้นักวิเคราะห์หลายสำนัก มองว่ามูลค่าทางการตลาดของบริษัทใหม่ (Newco) อาจขยับขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย ด้วยมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาทก็เป็นได้
ว่าแต่ต้องทำอย่างไรถึงจะไปได้ถึงขนาดนั้น....
อย่างแรก เจ๊เมาธ์ต้องบอกก่อนว่าเพียงแค่มูลค่าทางการตลาดของ GULF ที่มีอยู่แล้วราว 6.9 แสนล้านบาท บวกกับมูลค่าทางการตลาดของ INTUCH ที่มีอยู่แล้วราว 3.1 แสนล้านบาท ทำให้สารตั้งต้นของบริษัทเกิดใหม่ (Newco) แห่งนี้มีมูลค่ารวมกันถึง 1 ล้านล้านบาท
ขณะที่การดึงเอาธุรกิจสู่ระบบโครงสร้างพื้นฐาน ที่ทาง GULF INTUCH ADVANC และ THCOM มีอยู่ในมือมาต่อยอดไปสู่ความสำเร็จใหม่ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ GULF เตรียมจับมือกับ Google ให้บริการคลาวด์ในไทย เพื่อเน้นธุรกิจการให้บริการระบบคลาวด์ Google Distributed Cloud air-gapped หรือ GDC air-gapped
รวมไปถึงธุรกิจใหม่ที่เพิ่มเข้ามาอีกอย่าง “เวอร์ชวลแบงก์” หรือ ธนาคารไร้สาขา ซึ่งบริษัทลูกอย่าง ADVANC เตรียมจับมือกับ OR และ KTB ก็จะช่วยส่งเสริมให้มูลค่าทางธุรกิจโตขึ้นได้มหาศาล
อย่างที่สอง เป็นเรื่องของเม็ดเงินมูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาท ที่มาจากการระดมทุนของ “กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง” ที่เริ่มเดินหน้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยโดยให้น้ำหนักไปที่หุ้นในกลุ่ม SET50 ซึ่งคงหนีไม่พ้น GULF ADVANC และ INTUCH หรือแม้ว่า GULF และ INTUCH จะรวมกันเป็นบริษัทใหม่ แต่ก็ยังถูกมองว่าจะเป็นหุ้นที่โดนใจผู้จัดการกองทุนใหญ่แห่งนี้อยู่ดี
ท้ายที่สุด เมื่อสภาพคล่องของ GULF ADVANC และ INTUCH ถูกดูดหายเข้าไปอยู่ในร่มของกองทุน “กองทุนวายุภักษ์ หนึ่ง” ก็จะให้ปริมาณหุ้นที่หมุนเวียนอยู่ในตลาดของทั้ง 3 บริษัทมีจำนวนที่น้อยลงและอาจทำให้ราคาหุ้นของทั้ง 3 บริษัทจะปรับขึ้นไปตามหลักการทางเศรษฐศาสตร์ในเรื่องของ อุปสงค์และอุปทาน (Demand and Supply)
เอาเป็นว่ายังไม่ต้องเชื่อเจ๊เมาธ์ว่า GULF INTUCH และ ADVANC จะเป็นดรีมทีมแห่งอนาคตได้จริงหรือไม่ รอให้ผลงานและราคาหุ้นพิสูจน์ความเป็นจริงของตนเองก็พอแล้วนะคะ ถ้าเป็นของดีจริง...ยังไงก็ต้องได้ไปต่ออยู่แล้วค่ะ