ตื่นทำกัญชาทางการค้า คนแห่ชิมเมนูเด็ด“ไข่เจียว-เทมปุระ”ใบกัญชาแน่นร้าน“บ้านตุลย์”ระยอง แม่โจ้เปิดบ้าน“ชวนยิ้มชิมกัญ(ชา)”เสาร์ 20 ก.พ.ชิมเมนูปลอดภัยจาก 40 ร้านอาหาร ม.อ. เอ็มโอยู 3 เอกชน ร่วมวิจัยการใช้ประโยชน์ “กัญชา กัญชง กระท่อม” สายเขียวภูเก็ตนับร้อยวืด “ยังไม่เปิดให้ปลูกเสรี”
สาธารณสุขออกประกาศต่อเนื่อง ปลดล็อกกัญชง-กัญชาพ้นยาเสพติด ยกเว้นช่อดอก-เมล็ด ล่าสุดให้ตำรับยาเข้ากัญชาใช้เสพได้เพื่อรักษาโรค-วิจัยเมื่อ 16 ก.พ.2564 อย่างรวดเร็วฉับไวร้านอาหาร “บ้านตุลย์” ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนศรีเมืองเหนือ อำเภอเมืองระยอง จำหน่ายเมนูใหม่อาหารปรุงด้วยใบกัญชาแล้ว มีลูกค้าแน่นร้าน นายนพพร ชูศรีรักษ์ อายุ 39 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ก่อนเปิดขายได้ทดลองปรุงเมนูต่างๆ จนได้สูตรที่ลงตัวจึงเริ่มโพสต์แจ้งข่าว ปรากฎว่าได้รับเสียงตอบรับอย่างดี มีลูกค้าต้องการมาชิมตั้งแต่ก่อนกำหนดเปิด
มีเมนูยอดนิยมของลูกค้า ได้แก่ แกงไก่บ้านใบกัญชา ไข่เจียวใบกัญชา ลาบหมูใบกัญชา เป็นต้น นอกจากนี้แล้วทางร้านยังได้สร้างสรรค์เมนูเด็ด คือ ใบกัญชาเทมปุระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายปกครอง ตลอดจนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วงานปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เดินทางไปร่วมตรวจสอบ เภสัชกร วีระศักดิ์ เจียมอนุกูลกิจ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง กล่าวว่า ทางร้านมีใบอนุญาตจากแหล่งที่ได้รับการอนุญาตให้ปลูก และรับใบกัญชามาผสมในอาหาร โดยมีเอกสารยืนยันถูกต้อง และเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้ว ซึ่งใบกัญชาได้ถูกปลดล็อกไม่อยู่ในกฎหมายยาเสพติดแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ให้คำแนะนำกับทางร้าน เรื่องการติดตามสอบถามลูกค้าด้วยว่า หลังจากที่รับประทานไปแล้วมีอาการข้างเคียงอย่างไรหรือไม่ และควรจำกัดจำนวนคนที่เข้ามาในร้านให้มีการเว้นระยะห่างไว้ด้วย
ส่วน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เตรียมจัดงาน“แม่โจ้ชวนยิ้ม ชิมกัญ(ชา)” ในวันเสาร์ที่ 20 กุมภาพันธ์นี้ ด้วยสโลแกนเชิญชวนสุดอารมณ์ดีว่า เชิญท่านมาพักกายให้คลายร้อน เชิญพักผ่อนฝากใจไว้ที่นี่ ร่วมสร้างความรู้ความเข้าใจการใช้ประโยชน์จากส่วนของกัญชา และถ่ายทอดความรู้ในการประกอบอาหารจากส่วนของกัญชา กัญชง ที่ไม่จัดเป็นยาเสพติดอย่างปลอดภัย 20 กุมภาพันธ์ 2654 เวลา 10.00-13.00 น. ณ ฟาร์มมหาวิทยาลัยแม่โจ้ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกสภามหาวิทยาลัยแม่โจ้ ร่วมพิธีเปิด พบกับร้านอาหารกว่า 40 ร้านที่จะมาเปิดครัวปรุงอาหารจากกัญชาให้ชิมกัน
ด้านมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) ลงทุน 20 ล้านบาทซื้อเครื่องมือวิจัยหลังลงนามความร่วมมือระหว่างม.อ. กับภาคเอกชน 3 ฉบับ ได้แก่ การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมการผลิตพืชกระท่อม 2 ฉบับ คือกับบริษัท มาสเตอร์ แล็บส์ อินคอปอเรชั่น จำกัด และกับบริษัท ออริจิน เทค เพื่อร่วมกันพัฒนาต่อยอดและขับเคลื่อนศักยภาพของพืชกระท่อม ในการรักษาโรคต่างๆ และร่วมกันสร้างนวัตกรรมสู่เชิงพาณิชย์
ส่วนฉบับที่ 3 เป็นความร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สารสกัดจากพืชกัญชา กัญชง กระท่อม และสมุนไพรที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในทางการแพทย์แผนไทย กับบริษัท 420 (ประเทศไทย) จำกัด วิสาหกิจชุมชนศิริกันยา
ที่ภูเก็ตก็มีผู้สนใจจะดำเนินการเกี่ยวข้องกับกัญชาจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับแต่มีการปลดล็อกกัญชา-กัญชงพ้นยาเสพติด ยกเว้นช่อดอก-เมล็ด ทำให้ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานี้มีประชาชนมาติดต่อสอบถามหรือยื่นเรื่องต่อสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดภูเก็ต กว่า 100 ราย แต่จากการให้คำปรึกษา ตรวจสอบเอกสารคำร้องขออนุญาต หรือลงพื้นที่ตรวจสอบ ยังไม่มีรายได้ผ่านเกณฑ์เลยแม้แต่รายเดียว โดยส่วนใหญ่มาทำเรื่องขออนุญาตปลูก ซึ่งตามกฎหมายยังไม่เปิดให้ปลูกได้เสรี ต้องรอแก้กฎหมายก่อน
เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงข้อกฎหมายให้ทราบว่า จะปลูกกัญชาได้ต้องเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือการศึกษาวิจัยเท่านั้น โดยต้องยื่นเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งต้องมีคุณสมบัติคือ ต้องเป็น หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด หรือเป็นแพทย์ เภสัชกร แพทย์แผนไทยหรือหมอพื้นบ้าน หรือเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีการสอนทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์
แนวทางที่อาจดำเนินการได้คือ รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม หรือสหกรณ์การเกษตร เพื่อเป็นเครือข่ายผู้ผลิตให้แก่สถานพยาบาล หรือสถาบันการศึกษา โดยกระบวนการต่าง ๆ ทุกขั้นตอนต้องอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมอย่างเข้มงวด การจะเก็บเกี่ยวผลผลิตต้องมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐร่วมตรวจสอบ จนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือทำลายซากในแต่ละรอบการผลิต
หน้า 1 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,655 วันที่ 21 - 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564