ย้อนรอยคำชี้แจง ทอท. ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง

12 ก.ย. 2566 | 09:34 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ก.ย. 2566 | 09:40 น.

เปิดคำชี้แจงบริษัท ท่าอากาศยานไทย ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง หลังถูก พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถามหาความโปร่งใสในสภา  

จากกรณีที่ พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 66 ซึ่งเป็นการตั้งคำถามถึงความสามารถปราบคอร์รัปชันของนายเศรษฐา โดยตอนหนึ่งยกตัวอย่างกรณีสัญญาของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) ในการทำสัญญาสัมปทานโครงการระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง 

รายงานข่าวจาก ทอท. ระบุว่า กรณีดังกล่าว ทอท.เคยมีคำชี้แจงมาแล้วเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 โดยระบุว่า  AOT ชี้แจงการจัดหาระบบงานบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่องเป็นไปด้วยความโปร่งใส

บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) ชี้แจงการจัดการระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Passenger Processing System: CUPPS) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) และท่าอากาศยาน หาดใหญ่ (ทหญ.) ได้ดําเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 จึงเป็นไปด้วยความโปร่งใส 

โดย AOT ได้ดําเนินการจัดหาระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) ณ ทสภ.เมื่อปี 2563 เพื่อแก้ไขปัญหาความคับคั่งภายในอาคารผู้โดยสารและอํานวยความสะดวกในการเดินทางของผู้โดยสาร และดําเนินการ จัดหาระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) ณ ทดม. ทชม. ทชร. ทภก.และ ทหญ.เมื่อปี 2565 ซึ่งเป็นไปตามมติ ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 

ที่ได้กําหนดนโยบายด้านการบินพล เรือนของประเทศในการนําเทคโนโลยีระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) มาใช้ในสนามบินที่ให้บริการแก่สาธารณะเพื่อพัฒนาการดําาเนินการสนามบินสาธารณะให้มีความทันสมัย มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล และ ผลักดันให้มีการใช้ระบบดังกล่าวให้ทันตามนโยบายเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบของรัฐบาล ภายในต้นปี 2565 

ในการทําสัญญานี้ AOT ประมาณการรายจ่ายของระบบที่ต้องทําการติดตั้งทั้งหมด และเฉลี่ยค่าใช้จ่ายดังกล่าว เป็นค่าใช้จ่ายต่อจํานวนของผู้โดยสาร เพื่อนําค่าบริการดังกล่าวเสนอขออนุมัติจากสํานักงานการบินพลเรือน และเรียก เก็บจากสายการบินมาจ่ายเป็นค่าลงทุนระบบต่อไป การที่ AOT กําหนดกรอบของการรับความเสี่ยงไว้ที่ ร้อยละ 90 เป็น การบริหารความเสี่ยงของสัญญาไม่ให้เอกชนคิดค่าบริหารจัดการความเสี่ยงของจํานวนผู้โดยสารสูงจนเกินไป 

และใน ขณะเดียวกัน หากปริมาณผู้โดยสารสูงเกินประมาณการ 110% สัญญานี้ได้จํากัดค่าใช้จ่ายไว้ที่ 110% เพื่อไม่ให้เอกชน ได้รับค่าบริการสูงเกินจริงเช่นกัน ทั้งนี้ในการคัดเลือกเอกชนเข้ามาดําเนินการ AOT ได้ใช้วิธีการคัดเลือก ตามพรบ.จัดซื้อ จัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 โดยเชิญบริษัทเจ้าของเทคโนโลยีชั้นนําของโลกในด้านระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) มาเสนอราคา ดังนั้นจึงไม่เป็นการเอื้อผลประโยชน์แก่เอกชนเจ้าใดเจ้าหนึ่ง

สําหรับระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง (CUPPS) ณ ท่าอากาศยานของ AOT ประกอบด้วยระบบงานย่อย 6 ระบบ ได้แก่ ระบบตรวจบัตรโดยสารขึ้นเครื่อง (Common Use Terminal Equipment: CUTE) ระบบเช็กอิน ด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) ระบบรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) ระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System: PVS) ระบบประตู ทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (Self-Boarding Gate: SBG) และระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล (Automated Biometric Identification System) 

ซึ่งจะอํานวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถทําการเช็กอิน และโหลดกระเป๋าสัมภาระได้ด้วยตนเอง เพื่อลดความแออัดที่อาคารผู้โดยสาร และยกระดับการให้บริการของท่าอากาศยาน AOT ให้ทัดเทียม ท่าอากาศ ยานชั้นนําของโลก
ย้อนรอยคำชี้แจง ทอท. ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง

ย้อนรอยคำชี้แจง ทอท. ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ย้อนรอยคำชี้แจง ทอท. ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ย้อนรอยคำชี้แจง ทอท. ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ย้อนรอยคำชี้แจง ทอท. ปมสัมปทานระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง