สุริยะ ฟันธง"แลนด์บริดจ์เกิดแน่" คาดประมูล-ตอกเสาเข็มปี 68

07 มิ.ย. 2567 | 01:36 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มิ.ย. 2567 | 01:56 น.

"สุริยะ" ประสานเสียงนักวิชาการ การันตี "แลนด์บริดจ์เกิดแน่" หลังนักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ด้านที่ปรึกษา กมธ.แลนด์บริดจ์ เปิดไทม์ไลน์โครงการฯ คาดประมูล-ตอกเสาเข็มเฟสแรกปลายปี 2568

ความคืบหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทย และอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ภายหลังรัฐบาลเปิดรับฟังความสนใจจากภาคเอกชน (Market Sounding) โครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model) เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา  

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้สัมภาษณ์แสดงความมั่นใจว่าโครงการแลนบริดจ์ ได้ศึกษาชัดเจนแล้วว่าโครงการฯ ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อประเทศชาติ ดูจากการที่มีบริษัทจากต่างประเทศ ให้ความสนใจมาก และคนที่จะตัดสินใจว่าโครงการนี้จะเดินไปได้คือภาคเอกชนต่างประเทศที่มาลงทุน
 

 

สุริยะ ฟันธง\"แลนด์บริดจ์เกิดแน่\" คาดประมูล-ตอกเสาเข็มปี 68

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า จากที่ตนจะเดินทางไปกรุงโรม ประเทศอิตาลีและดูไบ ได้พบกับบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่ความสนใจ เพราะฉะนั้นขอให้มั่นใจได้ว่า"โครงการแลนด์บริดจ์เกิดแน่" 

เช่นเดียวกับการทำโรดโชว์ ที่จบไปแล้วทุกคนให้ความสนใจอย่างมาก ขั้นตอนต่อไปคือการเสนอกฎหมายผ่านสภาฯ เพราะการทำโรดโชว์เพื่อไปชักชวน และดูว่านักลงทุนมีข้อคิดเห็นอย่างไร จะใส่ลงไปในกฎหมายได้หรือไม่ โดยคาดว่าจะได้เป็นตัวร่างกฎหมายเสนอภายในหารประชุมสภาฯสมัยวิสามัญที่จะเปิดในเดือนกรกฎาคมนี้   ขณะที่ไทม์ไลน์ หลังจากประกาศแล้ว ได้ตัวผู้ลงทุน จะเริ่มสร้าง คาดว่าจะประกาศหาผู้ประมูลช่วง ปลายปี 2568

ด้านนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า การผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์นั้น เบื้องต้นต้องเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ.ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) คู่ขนานกันไปด้วย ทั้งนี้จะวางกรอบเวลาในการเสนอไปที่สภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พิจารณาทั้ง 3 วาระ ซึ่งในขั้นตอนนี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีในการจัดตั้ง SEC ซึ่งจะทันกับการประมูลโครงการแลนด์บริดจ์เฟสแรกในช่วงปลายปี 2568

"กรณีที่กระบวนการเสนอต่อสภาฯพิจารณาร่างพ.ร.บ.SEC หากมีความล่าช้าจะดำเนินการอย่างไรนั้น ในปัจจุบันมีกฎหมายหลายฉบับที่อยู่ในการพิจารณาของสภาฯ เบื้องต้นเราจะเร่งรัดให้มีการจัดลำดับความสำคัญของร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าไปอยู่ในนั้นด้วย เนื่องจากเป็นร่างพ.ร.บ.SEC ที่มีผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ"

สอดคล้องกับความเห็นของ รศ.ดร.กิตติ ลิ่มสกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญ สภาผู้แทนราษฎร  พิจารณาศึกษาโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน หรือ"กรรมาธิการโครงการแลนด์บริดจ์" กล่าวกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า แลนด์บริดจ์เกิดขึ้นแน่นอน หลังรัฐบาลทำ Market Sounding โดยเชิญผู้ประกอบการที่จะลงทุน ทั้งสถานทูตต่างประเทศและหน่วยงานต่างๆประมาณ 100 กว่าแห่ง พบว่าเสียงส่วนใหญ่มีความสนใจและมีคำถามมากพอสมควร   

สำหรับไทม์ไลน์หลังกระทรวงคมนาคม นำเสนอต่อที่ประชุม ครม.ทิศทางการดำเนินโครงการจะเดินหน้าดังต่อไปนี้  ภายในปี 2567  รัฐบาลจะออกกฎหมาย เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ซึ่งกฎหมายนี้มีความสำคัญมาก ต้องกำหนดขอบเขตต่างๆ และกำหนดกรอบของการเวนคืน เพื่อราษฎรที่ถูกรอนสิทธิจะได้ไม่เสียหาย รวมทั้งสส.ในพื้นที่และประชาชนต้องให้ความสำคัญโดยการมาร่วมให้ความคิดเห็นในสภาฯด้วย ดังนั้น สิ่งที่ต้องดำเนินการก่อนคือ

1.พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) ต้องแล้วเสร็จในปี 2567

2.จัดตั้งคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้  

3.จัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้  เพื่อขับเคลื่อนนโยบายและผลักดันให้เกิดการพัฒนาเมืองและพัฒนาอุตสาหกรรม 

ในปี 2568 จะเป็นการคัดเลือกเอกชนที่สนใจมาลงทุน ซึ่งจะมีการเวนคืน จัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน  และอื่นๆ เมื่อทุกอย่างเดินหน้าไปได้ จะขออนุมัติครม.ให้มีการลงนามสัญญา และเริ่มก่อสร้างในเดือนกันยายน 2568 และเริ่มตอกเสาเข็มเฟส 1 ในปี 2568 ตามด้วยเฟส 2,เฟส 3 ในปี 2569 - 2570 ตามลำดับ และเริ่มดำเนินการได้ในปี 2573

"เมื่อ พ.ร.บ. SEC เข้าสภาฯ สส.ให้ความร่วมมือ ขณะที่ประชาชนก็ไม่คัดค้าน เชื่อว่าปี 2568 สามารถเปิดการประมูลทั่วไปได้ ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดการพัฒนา SEC โดยใช้โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นเครื่องมือ” รศ.ดร.กิตติกล่าว 

หน้า 1 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3999 วันที่ 9-12 มิถุนายน พ.ศ. 2567