แบงก์ชาติ หวั่นรัฐบาลโหมกู้ เสี่ยงหนี้กระจุกกระทบ “หนี้สาธารณะ”

03 ก.ค. 2567 | 08:28 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ก.ค. 2567 | 08:36 น.

แบงก์ชาติ เสนอความคิดเห็นรัฐบาลปรับแผนบริหาร “หนี้สาธารณะ” ปี 2567 หวั่นรัฐบาลก่อหนี้เพิ่มขึ้นมาก ทำหนี้กระจุกตัว แนะปรับโครงสร้างหนี้ จัดสรรงบประมาณจ่ายต้นเงินกู้ของหนี้รัฐบาล และหนี้รัฐวิสาหกิจ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยฐานเศรษฐกิจว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เสนอเสนอความเห็นที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงการประชุม ครม.สัญจร เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งมีมติเห็นชอบการปรับปรุง แผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 โดยระบุว่า

ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร 0506/ว(ล) 12375 ลงวันที่ 13 มิถุนายน 2567 เรื่อง การปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 โดยขอให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาเสนอความเห็นที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีนั้น

ธปท. พิจารณาแล้วไม่ขัดข้อง เนื่องจากเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะครั้งที่ 1/2567 และเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลก่อหนี้เพิ่มขึ้นมาก จากทั้งการกู้เพื่อรองรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการชดเชยการขาดดุลงบประมาณรายจ่าย โดยเฉพาะการก่อหนี้ผ่านเครื่องมือทางการเงินระยะสั้น 

ดังนั้น เพื่อลดความเสี่ยงในการระดมทุนเพื่อทดแทนหนี้ที่จะครบกำหนดในระยะข้างหน้า (refinancing risk) รัฐบาลจึงควรให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดการกระจุกตัวของภาระหนี้ 

อีกทั้งควรจัดสรรงบประมาณเพื่อชำระต้นเงินกู้ของ หนี้รัฐบาล และ หนี้รัฐวิสาหกิจ ให้สอดคล้องกับหนี้ที่ครบกำหนดในปีงบประมาณนั้น ควบคู่ไปกับการติดตามแนวทางการแก้ไขปัญหา และแผนการบริหารหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่มีความจำเป็นต้องกู้เงิน แต่ไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบของคณะกรรมการฯ ได้อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ธปท. จะประสานงานกับกระทรวงการคลังในการบริหารหนี้สาธารณะอย่างใกล้ชิดเช่นที่เคยเป็นมา เพื่อให้การระดมทุนผ่านตลาดการเงินเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 2567 ครั้งที่ 2 ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.สัญจร จังหวัดนครราชสีมา มีรายละเอียดประกอบด้วย 

  1. แผนก่อหนี้ใหม่ ปรับเพิ่มสุทธิ 275,870.08 ล้านบาท (จากเดิม 755,710.63 ล้านบาท เป็น 1,030,580.71 ล้านบาท) 
  2. แผนการบริหารหนี้เดิม ปรับเพิ่มสุทธิ 33,420.32 ล้านบาท (จากเดิม 2,008,893.74 ล้านบาท เป็น 2,042,314.06 ล้านบาท) 
  3. แผนการชำระหนี้ ปรับเพิ่มสุทธิ 54,555.17 ล้านบาท (จากเดิม 399,613.70 ล้านบาท เป็น 454,168.87 ล้านบาท)

สำหรับการปรับแผนการบริหารหนี้สาธารณะ รอบใหม่ เป็นผลมาจากการปรับเพิ่มวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 (เงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน) จำนวน 269,000 ล้านบาท 

รวมทั้งการปรับเพิ่มวงเงินปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้รัฐบาลที่ครบกำหนดในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568-2571 จำนวน 50,000 ล้านบาท 

รวมไปถึงการปรับเพิ่มวงเงินแผนการชำระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน จำนวน 29,200 ล้านบาท และการปรับเพิ่มวงเงินแผนการชำระหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จำนวน 25,339.17 ล้านบาท เป็นต้น