นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การใช้งบประมาณปี 67 เพื่อจัดทำโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท คาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายได้ในช่วงเดือนธ.ค.ของปีนี้นั้น ยืนยันว่า สามารถทำได้ ไม่ขัดต่อกฎหมายงบประมาณ
ซึ่งวิธีดำเนินการจะเป็นรูปแบบการผูกพันงบปี 67 เพื่อไปใช้ในปีงบ 68 โดยเป็นการผูกพันโครงการ จากประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียน และได้รับสิทธิ์ดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งจะต้องรอดูจำนวนประชาชนที่ได้รับสิทธิ์โครงการในวันที่ 22 ก.ย.นี้ เพื่อดำเนินการผูกพันโครงการ
ทั้งนี้ งบประมาณปี 67 ที่รัฐบาลจะนำมาใช้ในดิจิทัล วอลเล็ต วงเงินรวม 1.65 แสนล้านบาท แบ่งเป็น
ฉะนั้น การผูกพันโครงการจึงต้องรอดูจำนวนผู้ผ่านเกณฑ์รับสิทธิ์ 16.5 ล้านคนก่อน ส่วนจำนวนประชาชนที่ผ่านเกณฑ์รับสิทธิ์นอกเหนือจากจำนวนดังกล่าว ก็จะใช้งบประมาณในปีงบ 68
“วันนี้ที่ประชาชนเข้ามาลงทะเบียนดิจิทัล วอลเล็ต ยังไม่สามารถผูกพันโครงการได้ แต่จะต้องไปตรวจสอบ ยืนยันว่าประชาชนผ่านเกณฑ์ได้เข้าร่วมโครงการ จึงจะสามารถผูกพันได้ เนื่องจากประชาชนได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทแล้ว และประชาชนก็จะไปเริ่มใช้จ่ายในช่วงเดือนธ.ค.67 ซึ่งกฎหมาย และกฤษฎีกาดูรายละเอียดแล้วว่าสามารถทำได้”
สำหรับการผูกพันโครงการเพื่อนำงบปี 67 มาใช้ในปี 68 นั้น เป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ไม่มีสัญญาการลงนามใดๆ เหมือนกับโครงการลงทุนของรัฐ ที่จะต้องผ่านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
แต่พันธสัญญาของรัฐบาล คือ การตอบกลับประชาชนไปว่าท่านได้รับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ และขั้นตอนต่อไปกรมบัญชีกลางก็จะเป็นผู้ไปออกระเบียบรองรับว่าการดำเนินการลักษณะนี้สามารถผูกพันเงินให้ได้
ขณะที่การใช้งบปี 68 วงเงิน 2.85 แสนล้านบาท งบประมาณอีกหนึ่งวงเงินที่นำมาดำเนินการดิจิทัล วอลเล็ตนั้น รัฐบาลก็ได้มีการตั้งงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับจำนวนประชาชนที่ผ่านเกณฑ์ว่ามีจำนวนทั้งหมดเท่าใด
และรัฐบาลก็จะไปบริหารจัดการต่อไป ยืนยันว่า แม้ประชาชนจะเข้าร่วมโครงการ 50 ล้านคน ตามกรอบโครงการ ก็สามารถบริการจัดการได้ โดยจำนวน 45 ล้านคน เป็นตัวเลขคาดการณ์ที่ประชาชนจะเข้ามาใช้สิทธิ์