นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมแถลงรายละเอียดประเภทสินค้าและรายละเอียด คุณสมบัติร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการในวันที่ 25 กันยายนนี้
นอกจากนี้ ในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ กระทรวงพาณิชย์จะแถลงความคืบหน้าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาล ในส่วนที่รัฐบาลรับผิดชอบก่อนอีกด้วย
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า
โครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต นั้น ที่ผ่านมา ได้กำหนดแนวทางเกี่ยวกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ จะสามารถ ถอนเงินสด ออกมาใช้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด
โดยระบุว่าร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต10000 บาท “ถอนเงินสด” ได้แน่นอน เนื่องจากวิธีการใช้จ่ายระหว่างประชาชนและผู้ประกอบการร้านค้ามีความแตกต่างกัน โดยมีวิธีการใช้จ่ายเงิน ดังนี้
รอบที่ 1
เป็นการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็กจนถึงร้านค้าสะดวกซื้อขนาดเล็ก ที่เข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต กำหนดเงื่อนไข ดังนี้
รอบที่ 2 เป็นต้นไป
เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้า ที่เข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet หรือ เงินดิจิทัลวอลเล็ต กำหนดเงื่อนไข ดังนี้
สำหรับร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีหลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสด ได้ เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป และจะถอนเงินสดได้เฉพาะร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี และมีคุณสมบัติ คือ
1. ร้านค้าที่อยู่ในระบบ ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ ภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเฉพาะผู้มีเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร เว้นแต่ร้านค้าที่ได้รับยกเว้นภาษีตามประมวลรัษฎากร โดยร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษีข้างต้นต้องมีการปฏิบัติหน้าที่ทางภาษี ดังนี้
กรณีร้านค้าที่ประกอบกิจการตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป จะต้องเป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ในปี 2565 และ 2566 ติดต่อกัน 2 ปี
กรณีร้านค้าที่ประกอบกิจการน้อยกว่า 2 ปี จะต้องเป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือภาษีเงินได้นิติบุคคล หรือภาษีมูลค่าเพิ่ม ติดต่อกันตั้งแต่เริ่มประกอบกิจการจนถึงปัจจุบัน
ร้านค้าใหม่ที่ยังไม่ครบกำหนดยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ในปีภาษีแรกหรือรอบระยะเวลาบัญชีแรกจะพิจารณาจากการยื่นแบบภาษีมูลค่าเพิ่มเท่านั้น
2. ร้านค้าต้องใช้หมายเลขโทรศัพท์แบบรายเดือนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์