"อนุชา" โต้กลับฝ่ายค้าน แลนด์บริดจ์  -ยุทธศาสตร์ชาติเข็มทิศประเทศ

วันที่13 กันยายน ซึ่งเป็นวันที่2ของการแถลงนโยบายของรัฐบาลแพทองธาร  โดยภาพรวม พรรคฝ่ายค้านลงลึกในเรื่องของโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการแลนด์บริดจ์ ที่สานต่อมาจากรัฐบาล พลเอกประยุทธ์  ตามด้วยรัฐบาลเศรษฐา

กระทั่งมาถึงรัฐบาลปัจจุบัน  ซึ่งอภิปรายโดย นางสาวภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน  ว่า โครงการแลนด์บริดจ์ หรือ”แลนด์บิด “ที่ อาจจะส่อไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนบางกลุ่ม สัมปทาน99ปี  และกระทบต่อวิถีชีวิตภาคใต้

จากการกล่าวพาดพิง ถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ของพรรคฝ่ายค้านส่งผลให้ นาย อนุชา บูรพชัยศรี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ   ลุกขึ้นตอบโต้ทันควัน

โดยระบุว่า โครงการแลนด์บริดจ์ เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ประเทศ ตามแนวคิดของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในสมัยที่เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ โครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน

เมกะโปรเจ็กต์ที่มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคม โดยจะเชื่อมโยงท่าเรือชุมพรเข้ากับท่าเรือระนอง สร้างความเจริญให้กับภาคใต้ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน เกิดการจ้างงานการดึงนักลงทุนเข้าพื้นที่ ยกระดับให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าการเดินเรือระดับโลก

นายอนุชา สะท้อนให้ฝ่ายค้านเห็นว่า

การกำหนดโครงการขนาดใหฯ่เป็นเรือธงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นเรื่องปกติที่ทุกประเทศต้องมีวิสัยทัศน์ทำให้ประเทศไทยมีความมั่นคง ยืนยันว่าโครงการแลนด์บริดจ์และยุทธศาสตร์ชาติ เป็นเข็มทิศที่ดีของประเทศ สร้างความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนต่อไปในอนาคต

 

อนึ่งความคืบหน้าการผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ รัฐบาลแพทองธาร โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เตรียมนำโครงการและ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ พ.ร.บ. SEC เข้าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในกันยายน 2567

เพื่อเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะผ่านการพิจารณาของสภาฯ ในเดือนเมษายน 2568 โดยคาดว่า พ.ร.บ. SEC และการจัดตั้งสำนักงาน SEC นั้น ตามแผนจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2/68เป็นต้น