นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ส่งสายตรวจเฉพาะกิจ รวมทั้งสั่งการไปยังจังหวัดแหล่งผลิตมันสำปะหลัง และจังหวัดตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านให้ปูพรมเข้มงวดตรวจการรับซื้อของผู้ประกอบการ และการขนย้ายในพื้นที่ หลังสถานการณ์ราคามันสำปะหลังในประเทศลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และพบว่า มีการนำเข้ามันสำปะหลังจากเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาที่เกษตรกรในพื้นที่
สำหรับสถานการณ์ราคารับซื้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนสร้างความไม่สบายใจเป็นอย่างมากเพราะส่งผลกระทบไปถึงเกษตรกรโดยตรง ซึ่งขณะนี้ผลผลิตของเกษตรกรเริ่มทยอยออกสู่ตลาดเข้าสู่ช่วงที่จะกระจุกตัวแล้ว และมีเกษตรกรบางส่วนที่เก็บเกี่ยวผลผลิตก่อนครบอายุ
รวมทั้งการใช้พันธุ์มันสำปะหลังที่ไม่ได้รับการรับรองจากภาครัฐส่งผลให้หัวมันสดมีเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งน้อย ประมาณ 11% – 12% กระทบกับราคาที่เกษตรกรขายได้
โดยกรมฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการรับซื้อผลผลิตของเกษตรกร ณ แหล่งผลิต โดยกำชับให้ลานรับซื้อ หรือโรงแป้งทุกแห่งต้องรับซื้อด้วยความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายทั้งด้านคุณภาพและราคา รวมทั้งตรวจสอบเครื่องชั่งน้ำหนัก เครื่องวัดเปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งของผู้ประกอบการต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด แสดงราคารับซื้อที่ชัดเจนและเปิดเผย ไม่ให้ฉวยโอกาสกดราคารับซื้อผลผลิตของเกษตรกรได้
"ได้สั่งการไปยังสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ให้เพิ่มความเข้มข้นในการกำกับดูแลโดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงช่วงที่มันสำปะหลังของเกษตรกรจะออกมากช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า และเฝ้าติดตามตรวจสอบการนำเข้าและขนย้ายมันสำปะหลังอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องในทุกพื้นที่โดยประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้ง กรมการค้าต่างประเทศ กรมศุลกากร การท่าเรือแห่งประเทศไทย ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองในพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการกำกับดูแลมากยิ่งขึ้นหากพบการกระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที"
อย่างไรก็ตาม ยังได้ให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังที่มีคุณภาพ ตัดเหง้าเอาดินออกก่อนนำไปจำหน่ายเพื่อไม่ให้ผู้รับซื้อหักสิ่งเจือปนจนเกิดความไม่เป็นธรรมด้วย และหากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิต สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน