เวียดนาม ประกาศยุทธศาสตร์ยานยนต์ ตั้งยอดขาย 1.1 ล้านคัน ดัน EV 85%

24 ต.ค. 2567 | 08:22 น.
อัปเดตล่าสุด :24 ต.ค. 2567 | 10:31 น.

เวียดนาม ประกาศแผนยุทธศาสตร์พัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ ตั้งเป้ายอดขายรถ 1.1 ล้านคัน ภายในปี 73 พร้อมดันการใช้รถยนต์ EV คาดมียอดขาย 4.3 – 4.4 ล้านคัน หรือ 80 – 85% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด

กรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามได้เผยแพร่ร่างมติของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับ “ยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ของเวียดนามถึงปี 2573 และวิสัยทัศน์ปี 2588 ที่มุ่งพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์เวียดนาม ทั้งด้านการผลิตและปริมาณการซื้อรถยนต์ โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดขายรถยนต์เป็น 1 – 1.1 ล้านคันภายในปี 2573 จากปัจจุบันที่มียอดจำหน่ายรถยนต์อยู่ที่ 302,000 คัน และมีอัตราการครอบครองรถยนต์ 63 คันต่อประชากรเวียดนาม 1,000 คน

ทั้งนี้ ร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวมุ่งเน้นที่การเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์ประหยัดน้ำมัน รถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด และรถที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เชื้อเพลิงชีวภาพ และเชื้อเพลิงจากแหล่งพลังงานยั่งยืนใหม่ และคาดว่าภายในปี 2573 จะมียอดการผลิตรถยนต์ภายในประเทศระหว่าง 600,000 – 700,000 คัน และคาดการณ์ว่าภายในปี 2588 ตลาดรถยนต์จะเติบโตในอัตรา 11 – 12% ต่อปี และมียอดรวมรถยนต์อยู่ที่ 5 – 5.7 ล้านคัน โดยเฉพาะการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า รถยนต์ไฮบริด รถยนต์พลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่คาดว่าจะมียอดรวมอยู่ที่ 4.3 – 4.4 ล้านคัน หรือ 80 – 85% ของตลาดรถยนต์ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน ตามสถิติของสถาบันนโยบายและยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม ระบุว่า เวียดนามมีการผลิตรถยนต์ได้ประมาณ 460,000 คันต่อปี โดยเป็นรถบรรทุกและรถโดยสารจำนวน 215,000 คัน และรถยนต์ขนาดกลาง จำนวน 200,000 คัน ภายใต้ร่างยุทธศาสตร์ดังกล่าวเวียดนามมีเป้าหมายการส่งออกรถยนต์เพื่อการขนส่ง ส่วนประกอบ และชิ้นส่วนรถยนต์ให้ได้มูลค่า 14,000 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2573 และตั้งเป้าว่าจะเริ่มต้นการผลิตส่วนประกอบสำคัญหลายส่วนในระบบส่งกำลัง และเครื่องยนต์ โดยจะมีกำลังการผลิต 55 – 60%

นอกจากนี้ ภาคส่วนรถยนต์ของเวียดนามตั้งเป้าที่จะเป็นซัพพลายเออร์ส่วนประกอบและชิ้นส่วนระดับโลกและระดับท้องถิ่นที่สำคัญภายในปี 2588 โดยมุ่งหวังที่จะกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมและตอบสนองความต้องการในประเทศสำหรับชิ้นส่วนอะไหล่และส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตและประกอบรถยนต์ได้ 80-85% และให้ความสำคัญต่อการพัฒนารถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังมีแผนที่จะใช้นวัตกรรมเพื่อผลิตส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ เช่น ระบบขับเคลื่อน ระบบส่งกำลังเครื่องยนต์ และตัวถังรถยนต์ เพื่อทำให้ประเทศมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และในประเทศได้

ทั้งนี้ ปัจจุบันเวียดนามเป็นตลาดส่งออกรถยนต์ที่สำคัญของไทยในอาเซียน โดยในระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา (2564 – 2566) สินค้าส่งออกอันดับ 1 ของไทยไปยังเวียดนามคือรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบแต่เนื่องจากนโยบายมาตรการจูงใจทางภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศของรัฐบาลเวียดนามที่มีมาอย่างต่อเนื่อง

รวมทั้งการสนับสนุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และพฤติกรรมของผู้บริโภคเวียดนามที่เริ่มนิยมซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ จากไทยไปยังเวียดนาม

อย่างไรก็ตาม เวียดนามอาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปสู่รถยนต์รถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ที่ใช้พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเพิ่มยอดการผลิตและยอดขายรถยนต์ให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ฯ

สำหรับผู้ประกอบการไทยยังมีโอกาสในการขยายตลาดสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ประเภทดังกล่าวมายังเวียดนาม ผู้ประกอบการไทยจึงควรติดตามสถานการณ์ตลาดรถยนต์ในเวียดนามอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการส่งออกสินค้ารถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไปยังเวียดนามในอนาคต