ในการประชุมคณะกรรมการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สมัยที่ 77 (Seventy – seventh Session of the WHO Regional Committee for South-East Asia : RC77) เมื่อวันที่ 7 – 9 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย
นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมฯ โดยได้เปิดเผยผลประชุม WHO-RC77 โดยได้รับฟังผลการดำเนินงานในรอบปี 2566 จากผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (WHO-SEARO)
พร้อมทั้งได้กล่าวถ้อยแถลงในนามประเทศไทย ชื่นชมความสำเร็จของการดำเนินงานในภูมิภาค เช่น การห้ามเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างงานเลี้ยงรับรอง ซึ่งถือเป็นบรรทัดฐานที่น่าชื่นชมในการส่งเสริมสุขภาพประชาชน เป็นต้น และเน้นย้ำความสำคัญของปัญหาสุขภาพจิตที่ปัจจุบันส่งผลกระทบต่อสังคมมากขึ้น
ทั้งนี้ ไทยพร้อมสนับสนุนแผนงานของ WHO-SEARO ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายกระทรวงฯ ที่เน้นเรื่องสุขภาพดิจิทัล สุขภาพจิต และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทำให้เกิดความท้าทายด้านสุขภาพอุบัติขึ้นใหม่ เช่น ความชุกของโรคฉี่หนู โดยประเทศไทยเห็นความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกซึ่งควรมีการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโดยเฉพาะภูมิภาคที่มีความเปราะบาง
ประเทศไทยยินดีให้ความร่วมมือสนับสนุนการทำงานขององค์การอนามัยโลกและประเทศสมาชิกต่อไป
ส่วนการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรี ภายใต้หัวข้อ "ระบบสุขภาพที่สามารถตอบสนองความต้องการของวัยรุ่น" ไทยได้ยกตัวอย่างความสำเร็จในการส่งเสริมและการพัฒนาศักยภาพเด็ก วัยรุ่น ครอบครัว ชุมชน ให้มีความรอบรู้ในการดูแลสุขภาพ สุขภาพทางเพศ อนามัยการเจริญพันธุ์ สุขภาพจิต การให้คำปรึกษาในการดูแลตนเอง ครอบครัว และการแนะนำบอกต่อเพื่อน ครอบครัว และชุมชน
มีระบบบริการที่เป็นมิตร ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการได้ในสถานบริการสาธารณสุขทุกแห่ง รวมถึงมีบริการให้คำปรึกษาสุขภาพออนไลน์ สำหรับกรณีความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ไทยมีศูนย์บริการช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกกระทำรุนแรง หรือ "ศูนย์พึ่งได้" ที่ให้บริการครบวงจรทั้งด้านการแพทย์และสาธารณสุข กฎหมาย และสวัสดิการสังคม หรือกรณีปัญหาอัตลักษณ์
ทางเพศก็มีบริการคลินิก LGBTQ+ ในโรงพยาบาล
ที่ประชุมได้รับรองปฏิญญาระดับรัฐมนตรี เพื่อมุ่งให้เกิดการเสริมสร้างระบบสุขภาพที่สามารถตอบสนองความต้องการของวัยรุ่น และไทยยังได้รับใบประกาศนียบัตรว่า รัฐบาลไทยได้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและเป้าหมายระดับโลกภายในปี 2573 เกี่ยวกับการลดอัตราการตายของเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี อัตราการตายของทารกแรกเกิด และอัตราการตายคลอด
นอกจากนี้ยังได้หารือทวิภาคีกับ Mr. Kunta Wibawa Dasa Nugraha ปลัดกระทรวงสาธารณสุขสาธารณรัฐอินโดนีเซีย เกี่ยวกับความร่วมมือด้านสาธารณสุข และการขอย้ายภูมิภาคองค์การอนามัยโลกของอินโดนีเซีย จากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังแปซิฟิกตะวันตก โดยไทยยินดีทำงานร่วมกับอินโดนีเซียและประเทศสมาชิกอาเซียน อาทิ โรคเวชศาสตร์เขตร้อน การจัดการวัณโรค และการจัดทำข้อตกลงเพื่อจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยสาธารณสุขฉุกเฉินและโรคอุบัติใหม่ (ACPHEED) ให้ประสบความสำเร็จ
รวมถึงหารือทวิภาคีกับ Ms. Saima Wazed ผู้อำนวยการ WHO-SEARO ถึงความร่วมมือพัฒนาให้กรมสุขภาพจิตเป็นศูนย์ข้อมูลหรือศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านสุขภาพจิตชุมชน การจัดตั้งศูนย์ความรู้ด้านหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ากับองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) และความร่วมมือกับประเทศสมาชิก WHO-SEARO
ข่าวที่เกี่ยวข้อง