หลังจากเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2563 ทางการเกาหลีเหนือได้เปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missile – ICBM) รุ่นใหม่ที่บรรทุกมาบนเครื่องยิง แบบเคลื่อนที่ขนาด 22 ล้อ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่น Hwasong-15 ที่มีระยะยิงประมาณ 13,000 กิโลเมตร ระหว่างพิธีสวนสนามในโอกาสครบรอบ 75 ปี การก่อตั้งพรรคแรงงานเกาหลี
ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐได้ออกแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อกรณีดังกล่าว ระบุว่า "น่าผิดหวังที่เกาหลีเหนือยังคงแสดงให้เห็นว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธต้องห้าม"
ในแถลงการณ์ยังเรียกร้องให้เกาหลีเหนือเข้าร่วมการเจรจาที่ยั่งยืนและมีสาระสำคัญเพื่อนำไปสู่การบรรลุข้อตกลงปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ตามที่ผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือได้ตกลงกันระหว่างการเจรจานิวเคลียร์เมื่อปี 2561
ทั้งนี้ ในการประชุมซัมมิตครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ และนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งจัดขึ้นที่สิงคโปร์ สหรัฐได้ให้คำมั่นที่จะรับประกันความปลอดภัยแก่เกาหลีเหนือเพื่อเป็นการตอบแทนหากเกาหลีเหนือยอมยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
หลังจากนั้น ผู้นำสหรัฐและเกาหลีเหนือได้พบกันอีก 2 ครั้ง แต่การเจรจาระหว่างสองผู้นำกลับมีความคืบหน้าเพียงเล็กน้อย เนื่องจากทั้งสองยังคงขัดแย้งกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น ระดับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือระหว่างขั้นตอนดำเนินการยุติโครงการนิวเคลียร์
"สหรัฐยังยึดตามสิ่งที่ปธน.ทรัมป์และผู้นำคิมพูดคุยกันในสิงคโปร์" ทางการสหรัฐระบุ
การสวนสนามของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุด ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ได้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดทั่วภูมิภาค เนื่องจากถูกมองว่า เป็นงานที่นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อาจจะส่งสาส์นใดๆ ถึงผู้ชมงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งนักวิเคราะห์ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจจะเปิดตัวอาวุธยุทธศาสตร์ใหม่ๆ แต่สื่อของรัฐบาลเกาหลีเหนือไม่ได้เปิดเผยภาพหรือรายงานข่าวเกี่ยวกับการสวนสนามดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ มีภาพถ่ายดาวเทียมพาณิชย์ซึ่งแสดงภาพการฝึกซ้อมการสวนสนามของทหารเกาหลีเหนือปรากฏออกมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ โดยเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนืออาจใช้พิธีสวนสนามนี้เพื่อเปิดตัวขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) หรือขีปนาวุธข้ามทวีปแบบใหม่ที่ยิงจากเรือดำน้ำ
เกาหลีเหนือได้เปิดตัว ICBM ในพิธีสวนสนามครั้งหลังสุดในเดือนก.พ. 2561 ซึ่งหลังจากนั้นไม่นาน นายคิมก็ได้เริ่มการประชุมกับบรรดาผู้นำประเทศ อาทิ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และหลังจากนั้น ก็ไม่เคยมีการแสดงขีปนาวุธครั้งใหญ่อีกเลย