โลกกำลังจับตาสถานการณ์ในยูเครน อีกหนึ่งวิกฤตกำลังใกล้ "เศรษฐกิจรัสเซีย" เมื่อมีรายงานว่ากำลังเกิดการขาดแคลน "เงินหยวน" ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะกำหนดอนาคตของรัสเซีย
"เงินหยวน" ของจีน กลายมาเป็นสกุลเงินต่างประเทศที่มีการซื้อขายมากที่สุดในรัสเซีย หลังจากที่ประเทศถูกตัดขาดจาก "ระบบการเงินโลก" ผลจากการรุกรานยูเครนในปี 2565 แต่สถานการณ์กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อสหรัฐฯ เตรียมขยายมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ในวันที่ 12 ตุลาคม 2024
มาตรการใหม่จะส่งผลให้ Moscow Exchange และตัวแทนหักบัญชีต้องหยุดการซื้อขายดอลลาร์และยูโร ซึ่งอาจทำให้ธนาคารจีนไม่แน่ใจที่จะทำธุรกรรมกับรัสเซีย เพราะอาจกังวลว่าจะถูกคว่ำบาตรทางอ้อม นอกจากนี้ การแปลงสกุลเงินและการซื้อขายเงินตราต่างประเทศผ่านตลาดมอสโกอาจหยุดชะงักลง
แหล่งข่าวรายหนึ่งเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สถานการณ์อาจเปลี่ยนแปลงไปหลังจากวันที่ 12 ตุลาคม การขาดแคลนเงินหยวนอย่างกะทันหันหรือการปฏิเสธที่จะรับการชำระเงินจากรัสเซียโดยธนาคารจีนนั้นเป็นไปได้
สัญญาณเตือนภัยเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว เมื่อธนาคารกลางรัสเซียลดการให้กู้ยืมสวอปเงินหยวนลงมากกว่าครึ่ง จาก 35,200 ล้านหยวน เหลือเพียง 15,400 ล้านหยวน ขณะที่หน่วยงานในรัสเซียของธนาคาร Raiffeisen Bank ของออสเตรียเริ่มปฏิเสธการชำระเงินให้กับจีนเมื่อต้นเดือนนี้ แต้่ธนาคารกลางของรัสเซียกล่าวว่า สวอปนั้นมีไว้เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดสกุลเงินในประเทศในระยะสั้นเท่านั้น และไม่ใช่แหล่งเงินทุนในระยะยาว
ผลกระทบของวิกฤตนี้อาจลุกลามไปทั่วทั้งระบบเศรษฐกิจรัสเซีย ธุรกิจที่พึ่งพาการค้ากับจีนอาจประสบปัญหาในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดแคลนสินค้านำเข้าและการลดลงของการแข่งขันในตลาด ส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
แม้ว่าการใช้จ่ายด้านการทหารและการส่งออกน้ำมันไปยังจีนและอินเดียจะช่วยพยุงเศรษฐกิจรัสเซียโดยรวม แต่ปัญหาอื่นกำลังทวีความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น การขาดแคลนแรงงาน เนื่องมาจากการระดมกำลังทางทหาร และวิกฤตประชากรที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเยล เตือนว่าข้อมูล GDP ที่เหมือนแข็งแกร่งนั้นอาจปิดบังปัญหาที่ซับซ้อนกว่าในเศรษฐกิจรัสเซีย โดยชี้ให้เห็นว่าในขณะที่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศขยายตัว ผู้บริโภคชาวรัสเซียกลับมีหนี้เพิ่มมากขึ้น อาจนำไปสู่วิกฤตที่กำลังใกล้เข้ามาได้
ขณะที่การใช้จ่ายด้านการทหารมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อการเติบโตของประเทศในระยะยาวและนวัตกรรมในภาคส่วนอื่นๆ ของเศรษฐกิจ ซึ่งอาจทำให้รัสเซียสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้
อ้างอิงข้อมูล