ตลาดหุ้นไทยความเชื่อมั่นฟื้น ดันดัชนีพุ่ง 24 จุด มูลค่าซื้อขายทะลุแสนล้าน

06 ก.ย. 2567 | 10:14 น.
อัพเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2567 | 11:30 น.

ตลาดหุ้นไทยวันนี้ 6 ก.ย.67 ทะยานขึ้นต่อเนื่อง 23.36 จุด ยืนเหนือระดับ 1,427.64 จุด ทำมูลค่าการซื้อขายทะลุ 1 แสนล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1 หมื่นล้าน โบรกมองความเชื่อมั่นตลาดหุ้นไทยฟื้น ความคาดหวังจูงนักลงทุนใส่เงินดักรอ กองทุน-ฟันด์โฟลว์ เข้า

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ 6 ก.ย.2567 ปิดตลาดที่ระดับ 1,427.64 จุด เพิ่มขึ้น 23.36จุด หรือเปลี่ยนแปลง 1.66% จุด ในช่วงระหว่างวันดัชนีทะยานขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,431.24 จุด และย่อตัวลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,412.76 จุด โดยมีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 107,404.75 ล้านบาท

สรุปมูลค่าการซื้อขายสิ้นวัน แบ่งตามประเภทนักลงทุน พบว่า บัญชีบริษัทหลักทรัพย์และต่างประเทศ มีสถานะซื้อ ที่ 714.53 ล้านบาท และ10,756.62 ล้านบาท ในขณะที่สถาบันและกลุ่มนักลงทุนในประเทศ มีสถานะขายสุทธิ 270.41 ล้านบาท และ 11,200.74 ล้านบาท ตามลำดับ

5 หุ้น ที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด ได้แก่

  • BBL ราคา 150.50 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท เปลี่ยนแปลง 5.61% มูลค่าซื้อขาย 6,380.44 ล้านบาท
  • CPALL ราคา 65.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท เปลี่ยนแปลง 2.76% มูลค่าซื้อขาย 5,975.50 ล้านบาท
  • KBANK ราคา 152.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท เปลี่ยนแปลง 4.10% มูลค่าซื้อขาย 5,297.31 ล้านบาท
  • SCB ราคา 113.50 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท เปลี่ยนแปลง 5.58% มูลค่าซื้อขาย 4,984.10 ล้านบาท
  • KTB ราคา 20.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท เปลี่ยนแปลง 4.66% มูลค่าซื้อขาย 4,975.39 ล้านบาท

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้ 6 ก.ย.2567 มองว่าเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่เริ่มกลับมา ทำให้หน้าหุ้นกลุ่ม Big cap ทยอยขยับตัวเพิ่มขึ้นยกแผง ตาม Sentiment ของความคาดหวังจากความชัดเจนการตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) และเตรียมแถลงนโยบายแล้วในสัปดาห์หน้า

ประกอบกับมีความชัดเจนในการกลับมาของกองทุนวายุภักษ์ ที่จะเริ่มซื้อตั้งแต่ 1 ต.ค.ที่จะถึงนี้ พร้อมกับเงื่อนไขที่จูงใจนักลงทุนมากขึ้น ทำให้มีเม็ดเงินจากความคาดหวังนโยบายทางการเมืองเข้ามาในตลาดหุ้นไทย และเชื่อว่าจะส่งผลให้กระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) เข้ามาในระยะสั้น

ดังนั้น จึงคาดว่าระยะนี้คนมาซื้อดักทางไว้ก่อนเป็นการเล่นรอบรอกองทุนและ Fund flow เข้า ซึ่งในระหว่างนี้คาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะแกว่งตัวเคลื่อนไหวในกรอบ 1,420-1,430 จุด โดยหากว่าขึ้นไปแตะที่เส้นแนวต้าน 1,430 จุด อาจเห็นแรงขายทำกำไรออกมาบ้าง และเชื่อว่าการย่อตัวในรอบนี้จะไม่ลงไปก็ไม่น่าหลุดระดับ 1,400 จุด

โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้อาจไม่ได้พุ่งแรงเหมือนเมื่อวานก่อนหน้า (5 ก.ย.2567) ที่ขึ้นมาเกือบ 40 จุด เพราะกลุ่มหุ้น Big cap ขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว ทำให้ราคาค่อนข้างตึง แต่ถามว่าตลาดหุ้นไทยยังไปได้ต่อไหม ก็ต้องตอบเลยว่า Sentiment ยังไปได้ต่อ โดยเมื่อถึงระดับแนวต้านสำคัญที่ 1,450 จุด อาจต้องระวังแรงขายทำกำไร

ทิศทางการกลับมาลงทุนของ Fund flow มีสัญญาณเชิงบวก เริ่มเห็นแรงกลับมาซื้อเพิ่มขึ้น เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2567 สถานะซื้อสุทธิกว่า 7.4 พันล้านบาท โดยในสัปดาห์หน้าหากว่าปัจจัยทางการเมืองดำเนินได้ตามแผนงานที่วางไว้ ก็คาดว่าจะเห็นการกลับเข้ามาลงทุนยังตลาดหุ้นไทยที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี มองว่าด้วยตลาดหุ้นไทยที่อยู่ในช่วงฟื้นตัว ทำให้มองว่าแม้ Fund flow ใส่เงินมาเพียงเล็กน้อยก็มีผลต่อการขึ้นของดัชนีได้

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำเลือกเล่นหุ้นรายตัวที่มีสตอรี่อิงกับปัจจัยภายในประเทศ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก แนะนำ CPALL ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากโครงการแจกเงินช่วยกลุ่มเปราะบาง ประกอบกับคาดว่ายอดขายต่อสาขา (SSSG) ในไตรมาส 3-4/2567 จะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มโรงไฟฟ้า แนะนำ GPSC ที่ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทที่แข็งค่า, กลุ่มไฟแนนซ์ แนะนำ JMT คาดว่าผลประกอบการได้พ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว แนวโน้มไตรมาส 3-4/2567 มีทิศทางที่ดีขึ้น และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ แนะนำ KBANK เป็นต้น ขณะที่กลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก แนะนำ SGC มองว่าธุรกิจเริ่มีทิศทางที่ดีขึ้น ปลดล็อกการเพิ่มทุน ราคาหุ้นมีจังหว่ะขยับขึ้นได้