ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัว กรอบ 1,460-1,480 จุด ชู SINGER เด่น
บล.ลิเบอเรเตอร์ คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1,460-1,480 จุด แนะติดตามประชุมสำคัญ 2 แห่ง โดยคาด กนง. คงดอกเบี้ย แต่ ECB ลดดอกเบี้ย 0.25% เกาะติดรายงานกำไรบจ. ไตราส 3/67 กลยุทธ์เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรโต ชู SINGER เด่น
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) ประเมินภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ 15 ต.ค.67 ว่า ทางฝ่ายคาด SET Index "ฟื้นตัว" ในกรอบ 1,460-1,80 จุด โดยในสัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารสำคัญ 2 แห่งที่น่าจับตา ได้แก่
- การประชุม กนง. ในวันพุธที่ 16 ต.ค. โดยคาดว่าคณะกรรมการฯ จะตัดสินใจคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ตามเดิม แม้ว่าจะมีแรงกดดันในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างมาก โดยคาดว่า กนง. อาจจะยังคอยติดตามภาพรวมเศรษฐกิจไทยอีกระยะ เนื่องจากช่วงสั้นเศรษฐกิจไทยเริ่มมีความหวังมากขึ้น ผสานกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ ยังคงทยอยออกมาต่อเนื่อง ดังนั้น จึงอาจยังไม่รีบในการใช้มาตรการทางการเงินในช่วงนี้
- การประชุมหนึ่งที่น่าติดตาม คือ การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพฤหัสที่ 17 ต.ค. โดยคาด ECB จะลดดอกเบี้ย 0.25% ทั้งอัตราเงินกู้, เงินฝาก และรีไฟแนนซ์ สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน ที่ปรับลงต่อเนื่อง โดยจากแนวโน้มโอกาสที่ ECB จะลดดอกเบี้ยคาดกระตุ้นให้ค่าเงินยูโร มีทิศทางอ่อนค่า ซึ่งเป็นแรงหนุนเพิ่มเติมในระยะสั้นให้ Dollar Index จะแข็งค่ามากยิ่งขึ้น โดยล่าสุดพบว่า Dollar Index ทะลุระดับ 103 จุด ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน
ส่วนปัจจัยอื่นในประเทศสัปดาห์นี้ คาดจะเริ่มทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/67 โดยเริ่มที่กลุ่มธนาคาร ซึ่งตลาดคาดกำไรรวมของธนาคารสำคัญ 7 แห่ง คาดจะมีกำไรรวมที่ 5.11 หมื่นล้านบาท ลดลง 4.4% จากไตรมาสก่อน แต่เพิ่มขึ้น 1.4% จากช่วงเดียยวกันในปีก่อน
ด้านกลยุทธ์ยังมองเป็นจังหวะสะสมหุ้นพื้นฐานดี ที่คาดแนวโน้มกำไรขยายตัวเด่น
หุ้นแนะนำ
SINGER ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 17.00 บาท โดยคาดแนวโน้มผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวต่อเนื่องทั้งจากไตรมาสก่อน และจากช่วงเดียวกันกับปีก่อน แรงหนุนจากการปล่อยสินเชื่อ Lock phone ของ SGC ขยายตัวได้ดีกว่าคาด ผสาน NPL ของโครงการที่ยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ดอกเบี้ยจ่ายจะลดลง จากการทยอยจ่ายคืนหุ้นกู้ อีกทั้งยังต่อยอดโครงการไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น รวมไปถึงการลด Cost ได้ดี จากการปิด Hub บางส่วน เปลี่ยนไปเพิ่ม partner network มากขึ้น
SGC ราคาเป้าหมาย 1.96 บาท คาดกำไรครึ่หลังปี 67 จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเติบโตของโครงการ SG Finance+ ซึ่งเป็นการปล่อยสินเชื่อมือถือที่สามารถล็อกได้หากผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้ NPL Ratio อยู่ในระดับต่ำ ผสานกับการปลดล็อกการเพิ่มทุน จะหนุนให้ SGC ผ่อนคลายดอกเบี้ยจ่าย และมีเม็ดเงินเพิ่มเติมในการปล่อยสินเชื่อ หนุนปี 68 กำไรจะเติบโตแบบก้าวกระโดด
BH คาดกำไรไตรมาส 3/67 ยังคงเติบโตโดดเด่น จากการเข้าสู่ช่วง High Season โดยคาดผู้ป่วยจากตะวันออกกลางยังปรับตัวขึ้นดี ขณะที่ประเด็นของคูเวต คาด BH มีโอกาสถูกเลือกเป็น 1 ใน 3 โรงพยาบาลในไทยที่รัฐบาลคูเวตสนับสนุน
ขณะที่ภาพระยะกลาง คาดได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากการเปิดโรงพยาบาลแห่งใหม่ในภูเก็ตในช่วงปี 69
AOT คาดกำไรในช่วง ก.ค.-ก.ย. 67 จะขยายตัวได้จากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน ตามรายได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่ในฝั่งรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับการบินอาจลดลงเล็กน้อย จากการยกเลิกร้าน Duty Free ขาเข้าตั้งแต่ ส.ค.67 ขณะที่ในระยะสั้นคาดมีปัจจัยบวกจาก Golden week หนุนนักท่องเที่ยวจีนสูงขึ้น และการเดินหน้าต่อในช่วงปลายปีคาดนักท่องเที่ยวจะเร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาล ขณะที่ Upside อาจมาจากมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐฯ
ประเด็นที่ต้องจับตา
15 ต.ค. Empire Manufacturing,
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยูโรโซน & ญี่ปุ่น
16 ต.ค. การประชุม กนง.
17 ต.ค. ยอดค้าปลีก US, ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานราย
สัปดาห์ US, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม US,
การประชุม ECB, ดัชนี CPI ของยูโรโซน,
ยอดส่งออกญี่ปุ่น, สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์