นายเสริมศักดิ์ วงศ์สิทธิโชค ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายค้าตราสารการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ทิศทางปี 2568 ทั้งเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก รวมถึงตลาดหุ้นต่างๆ ยังมีความผันผวน จากปัจจัยที่่เกิดขึ้นแน่ๆ คือ สงครามราคา และสงครามการค้า
ขณะที่ี่เศรษฐกิจจีน ยังคงเผชิญหน้ากับปัญหาในเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซา อัตราการจับจ่ายใช้สอยของประชากรลดลง เช่นเดียวกันกับการบริโภคที่อาจต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
ดังนั้นมองว่า เศรษฐกิจปี 2568 ยังต้องติดตามผลช่วง 6 เดือนแรกของปีว่า จะมีทิศทางอย่างไร โดยเฉพาะนโยบายการขึ้นกำแพงภาษีของทรัมป์ว่า จะมีการขยายผลขึ้นภาษีไปยังประเทศอื่นๆเพิ่มเติมหรือไม่อย่างไร ทำให้การส่งออกไทยในปีหน้าต้องเหนื่อยหน่อย
ส่วนราคาพลังงานเชื่อว่า จะไม่อย่ไปกว่านี้ และค่าเงินยังคงมีความผันผวน
ดังนั้นการลงทุนในปี 2568 ยังคงแนะนำให้จัดพอร์ตกระจายความเสี่ยงการลงทุนไปในหลายๆ ภูมิภาค และเลือกหลากหลายผลิตภัณฑ์กองทุนเพื่อเป็นการล็อคความเสี่ยง กระจายต้นทุน
สำหรับการลงทุนในปี 2567 นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วอย่างสหรัฐฯและยุโรปให้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างโดดเด่น +20% และ+10% ตามลำดับ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยบวก 3-4% ส่วนตลาดหุ้นจีนเองเพิ่งกลับมาดีขึ้นได้หลังจากที่รัฐบาลออกมาตรการบาซูก้ากระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนช่วงโค้งสุดท้ายปี 67 ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นทั่วโลกมีโอกาสปรับฐานจากความเสี่ยงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง อีกทั้งช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทำให้มูลค่า(Valuation) หลายตลาดค่อนข้างตึงตัวมากแล้ว จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกขายทำกำไรในระยะถัดไป
ดังนั้น ทางฝ่ายจึงเห็นควรว่า ในการลงทุนนั้นควรเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตออกไปยังภูมิภาคต่างๆ โดยที่มุ่งเน้นในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งยังคงให้อัตราผลตอบแทนที่สูงอยู่ รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายประเทศ และในการลงทุนนั้นความเป็นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินช่วยบริหารจัดการภาษีและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาว แนะนำกระจายน้ำหนักการลงทุนไปยัง “กองทุนลดหย่อนภาษี” เช่น
โดยทางฝ่ายแนะให้เลือกลงทุนในกองทุนลดหย่อนภาษีที่เน้นกระจายการลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายทั่วโลก, ลงทุนในตลาดที่มีแนวโน้มกำไรฟื้นตัว (Earnings Growth) และมูลค่า (Valuation) น่าสนใจ สะท้อนผ่าน Trailing P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปี เพื่อกระจายความเสี่ยงการลงทุน
สำหรับตลาดหุ้นต่างประเทศที่แนะนำคือ
นอกจากนี้ ทางฝ่ายยังมองว่า หุ้นกลุ่มสุขภาพ ซึ่งหุ้นกลุ่มนี้มีความทนทานต่อเศรษฐกิจถดถอย และกำไรเริ่มกลับมาฟื้นตัว แนะนำลงทุนกองทุน KT-HEALTHCARE-SSF และ KT-HEALTHC RMF ที่เน้นลงทุนในหุ้นสุขภาพทั่วโลก สไตล์ Balance Portfolio ทั้งในหุ้นสุขภาพแบบดั้งเดิมและนวัตกรรม
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,050 วันที่ 5 - 7 ธันวาคม พ.ศ. 2567