ศ.พญ.ดร. อรพรรณโพชนุกูล ผู้อำนวยการศูนย์ Lifestyle &Wellness Medical Center โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และนายกสมาคมสภาองค์กรโรคหืดแห่งประเทศไทย (Thailand AsthmaCouncil) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ในสังกัดสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เตรียมเปิดศูนย์ Lifestyle & Wellness Medical Center เต็มรูปแบบเพื่อให้บริการด้านสุขภาพครบวงจรอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคม 2567 นี้
หลังจากเปิดตัวไปแล้วครั้งแรกเมื่อช่วงปลายปี 2566 ที่ผ่านมาโดยสามารถตรวจและประเมินสุขภาพในเชิงลึกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยการเจาะเลือดตรวจในแลป ตรวจจากภายในสู่ภายนอก โดยเน้นโปรแกรมเฉพาะบุคคล เช่น การตรวจอายุกระดูก ตรวจกล้ามเนื้อ หลอดเลือด ความเสื่อมตามวัย ฯลฯ
“หากพูดถึงเวลเนส หลายคนอาจจะนึกถึงเรื่องความสวยงาม การป้องกันโรค ตามศูนย์บริการของเอกชน หรือคลินิกต่างๆ แต่เวลเนสแท้จริงคือการดูแลรักษาสุขภาพให้ดีอย่างยั่งยืน ส่วนสำคัญคือการปรับไลฟ์สไตล์โดยไม่จำเป็นต้องกินยา วิตามิน หรืออาหารเสริม เพราะการเกิดโรคส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม NCDs ซึ่งในยุโรปและอเมริกาจะสอนการปรับไลฟ์สไตล์ให้กับคนไข้มากกว่าในประเทศไทย จึงเป็นที่มาของการเปิดศูนย์ ธรรมศาสตร์ Lifestyle & Wellness Medical Center จะช่วยคนไข้ป้องกันไม่ให้เป็นโรคซึ่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เป็นโรงเรียนแพทย์มีศักยภาพในด้านนี้”
เบื้องต้นศูนย์เวลเนสแห่งนี้ลงทุนอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ด้วยงบประมาณราว 10 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าสถานที่และอื่นๆ ซึ่งยังคงต้องลงทุนเพิ่มเพื่อให้ครบสมบูรณ์ต่อไปในอนาคต เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยทีมแพทย์ที่หมุนเวียนกันหลายคน ล้วนเป็น
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้าน ทั้งการตรวจ การออกกำลังกาย การบริหารความเครียด การนอน ออฟฟิศซินโดรม หลากหลายอาการ รวมถึงด้านการทำกายภาพ ขึ้นอยู่กับความผิดปกติในแต่ละบุคคล ตั้งแต่วัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์ ผู้ตั้งครรภ์ วัยทอง ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
โดยการปรับไลฟ์สไตล์รักษาดูแลผู้ป่วยแต่ละรายจะใช้เวลานานนับชั่วโมงเฉลี่ย 1 ชั่วโมง/คน เป็นศูนย์เวลเนสเพื่อประชาชนที่ต้องการให้คนไทยสามารถเข้าถึงได้ทุกระดับด้วยมาตรฐานสากล เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ ซึ่งในอนาคตอาจจะขยายตลาดรับชาวต่างชาติด้วย
“เรามีเทคโนโลยีดูแลป้องกันรักษาผู้ใช้บริการจากทั้งยุโรป อเมริกา เกาหลี แล้วแต่เทคนิค ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ได้รับการรองรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยจะขยายตัวทั้งกลุ่มลูกค้าและขนาดของศูนย์เป็นเฟส ต่อยอดไปเป็นระยะให้ตรงตามหลักวิชาการ ตามที่มีข้อมูลรองรับ ซึ่งจุดแข็งของ Lifestyle & Wellness Medical Center มั่นใจว่าแตกต่างจากที่อื่นด้วยทีมแพทย์จากมหาวิทยาลัยโดยตรง ค่าใช้จ่ายอยู่ในราคาของกรมบัญชีกลางที่ทุกคนเข้าถึงได้ ไม่ใช่แค่ระดับไฮเอนด์ คาดว่าหลังจากเปิดตัวเต็มรูปแบบจะมีผู้เข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเทรนนิ่งผู้ใช้บริการต่อยอดทำให้สุขภาพดีขึ้นได้ ตามเทรนด์การใช้ชีวิตของคนในสังคมให้เริ่มหันมาดูแลสุขภาพตัวเอง”