วันนี้(27 พ.ค.65) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ยื่นฟ้อง นางสุนี สุขประสงค์ดี หรือสมมี อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง (นายก อบจ.ลำปาง) เรื่อง การแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น
กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของผู้ถูกกล่าวหา กับลงโทษฐานเป็นผู้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๘๑, ๑๑๔, ๑๖๗, ๑๘๘
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
พิเคราะห์คําร้อง เอกสารประกอบคําร้อง และคําให้การของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริง รับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งให้ดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๕ และพ้นจากตําแหน่งเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีพ้นจากตําแหน่ง เมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของตนเอง
ได้แก่ ที่ดิน ๘ แปลง รถจักรยานยนต์ ๑ คัน รถยนต์ ๔ คัน สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ๓ รายการ และไม่แสดงรายการทรัพย์สิน ของคู่สมรส ได้แก่ ที่ดิน 5 แปลง
ปัญหาต้องวินิจฉัยมีว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปางหรือไม่
เห็นว่า พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มีผลใช้บังคับ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๑ โดยยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒
แต่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๑๖๗ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิด ยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้องเป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้กฎหมาย ที่ใช้ในขณะกระทําผิดบังคับแก่คดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒ วรรคแรก
ส่วนมาตรการจํากัดสิทธิทางการเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๘๑ ไม่เป็นคุณแก่ผู้ถูกกล่าวหา จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๔ บังคับแก่คดี
เมื่อข้อเท็จจริง รับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ผู้ถูกกล่าวหา จึงเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา ๔ มีหน้าที่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อผู้ร้อง ภายในสามสิบวันนับแต่วันเข้ารับตําแหน่งและวันพ้นจากตําแหน่ง ตามมาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓
ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง โดยไม่แสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของตนเอง ได้แก่ ที่ดิน ๘ แปลง รถจักรยานยนต์ ๑ คัน รถยนต์ ๔ คัน สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ ๓ รายการ และไม่แสดงรายการทรัพย์สินของคู่สมรส ได้แก่ ที่ดิน 5 แปลง ซึ่งการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินเป็นหน้าที่สําคัญของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ที่ต้องปฏิบัติ เพื่อให้การตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของบุคคลดังกล่าวบรรลุผล
เมื่อรับฟังประกอบคํารับสารภาพ ของผู้ถูกกล่าวหา จึงฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ ต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง มีผลห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมือง หรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตําแหน่งตามมาตรา ๓๔ วรรคสอง
นอกจากนี้ การกระทําของผู้ถูกกล่าวหายังเป็นความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจงใจยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความ อันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบตามมาตรา ๑๑๙ ด้วย
พิพากษาว่า นางสุนี สุขประสงค์ดี หรือสมมี ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลําปาง ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๒ และมาตรา ๓๓ ห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมือง เป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ซึ่งเป็นวันที่ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่ง ตามมาตรา ๓๔ วรรคสอง
กับมีความผิดตามมาตรา ๑๑๔๙ จําคุก 6 เดือน และปรับ 6,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจําคุก ๑ เดือน และปรับ ๔,๐๐๐ บาท
ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐ คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก