“วัชระ”ยื่นหนังสือคัดค้านกระทรวงพลังงานยุบโรงไฟฟ้าสุราษฎร์ธานี

ที่กระทรวงพลังงาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือต่อ นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ผ่านนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เพื่อขอคัดค้านข้อชี้แจงการขอให้พิจารณาเร่งรัดการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าแพง และคัดค้านกระทรวงพลังงาน ที่สรุปให้ไปสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคกลาง (ภาคตะวันตก) แทน จ.สุราษฎร์ธานี และคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนเรื่องดังกล่าวนี้แล้ว

นายวัชระ เปิดเผยว่า ตามหนังสือที่อ้างถึงสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานได้ชี้แจงในฐานะหน่วยงานสังกัดกระทรวงพลังงานซึ่งมีนายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ เป็นหัวหน้าส่วนราชการและตามวันเวลาดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานนั้น

ตนในฐานะอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และขอคัดค้านและขอส่งหลักฐานความเห็นทางวิชาการของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (สร.กฟผ.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้านครหลวง (สภฟ.) และ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สร.กฟภ.) เกี่ยวกับปัญหาค่าไฟฟ้ามีราคาแพง และการยุบเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี 

สหภาพเป็นองค์กรทางอุดมการณ์ของผู้ใช้แรงงาน มีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ปรากฏรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1 สิ่งที่ส่งมาด้วย 2 และสิ่งที่ส่งมาด้วย 3 เพื่อให้เป็นหลักฐานทางวิชาการ หักล้างเรื่องค่าไฟฟ้าแพง

และไม่เห็นด้วยกับการยุบโรงไฟฟ้าจำนวน 1,400 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรง ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ของกระทรวงพลังงาน เพื่อให้กระทรวงพลังงาน ในฐานะเจ้าพนักงานตามกฎหมายที่กำกับดูแลอัตราค่าไฟฟ้าของประชาชนและให้นำไปใช้ ประกอบการทำร่างแผน PDP2024 ที่กระทรวงพลังงานได้ยุบเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และใช้อำนาจโดยมิชอบไปกำหนดให้มีโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคกลาง (ภาคตะวันตก) แทน จ.สุราษฎร์ธานีนั้น 

เพื่อป้องกันความเสียหายต่อประชาชนภาคใต้ในอนาคต อันจะประมาณค่ามิได้ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว

จึงขอให้กระทรวงพลังงานบรรจุการสร้างโรงไฟฟ้า จำนวน 1,400 เมกะวัตต์ 2 โรงที่บริเวณเขาหัวควาย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ไว้ตามแผน PDP2018 เหมือนเดิมทุกประการ หากท่านละเว้นโดยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบละเมิดสิทธิของประชาชนชาวภาคใต้ ตนขอสงวนสิทธิ์ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ตั้งคณะอนุไต่สวนในเรื่องยุบโรงไฟฟ้า และทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เสียกำลังการผลิต 17% และทำให้ค่าไฟแพงขึ้นผิดปกติอย่างมีนัยสำคัญประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศ ตามหนังสือสำนักงาน ป.ป.ช. ลับ ที่ ปช 0021/2562 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ยุบโรงไฟฟ้า จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 2 โรง ปรากฏรายละเอียดตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 4