ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
นายจุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้อภิปรายถึงประเด็นข้อพิพาทการครอบครองที่ธรณีสงฆ์ของบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ตคลับ จำกัด ซึ่งก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร เป็นกรรมการบริษัท และมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้คืนที่ดินกับวัดธรรมิการาม
ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ไม่เคยแสดงเจตนาที่จะทำเรื่องดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมาย ฉวยโอกาสให้บริษัทของตัวเองประกอบธุรกิจสนามกอล์ฟ เพื่อแสวงหากำไรจากที่ดินของวัด และ เมื่อ น.ส.แพทองธาร มีอำนาจเป็นนายกฯ ใช้อำนาจหน้าที่กับข้าราชการเพื่อให้การเพิกถอนการโอนที่ดินดังกล่าวยาวนานที่สุด ซึ่งพบประเด็นการเตรียมทำเรื่องเพื่อฟ้องร้องเรียกค่าเสีย ในกรณีดังกล่าว อีกทั้งยังพบประเด็นที่นำไปเป็นเครื่องมือต่อรองแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างกลุ่มการเมืองในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
“ตอนนี้คงจะกำลังรอเจรจาต่อรองกันว่า จะเอาอย่างไรกับที่ดิน อีกแห่งหนึ่งของพรรคร่วมรัฐบาล ที่คาราคาซังไม่ลงรอยกันมาเป็นปีคือ พรรคภูมิใจไทย เป็นที่ประจักษ์ของสังคมมาหลายเดือนแล้ว ซึ่งเรื่องหนึ่งที่เอามาเจรจาต่อรองกันคือ เรื่องที่ดินอัลไพน์ กับที่ดินเขากระโดง ของตระกูลชิดชอบ หรือเป็นละครฉากหนึ่งของการแบ่งผลประโยชน์ระหว่าง 2 พรรคการเมือง
หากมีใครหน้าไหนมาเสนอในลักษณะยื่นหมูยื่นแมว ประเคนเงินภาษีของประชาชนไปชดเชยให้กับครอบครัวของนายกฯ ที่ต้องคืนที่ดินอัลไพน์ให้กับวัด แลกกับไม่ต้องเพิกถอนที่ดินเขากระโดง เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ เรายอมให้เอาเปรียบประชาชนไม่ได้เด็ดขาด” นายจุลพงษ์ อภิปราย
จุลพงษ์ อยู่เกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน
นายจุลพงษ์ อภิปรายด้วยว่า เรื่องดังกล่าว นายกฯ รู้เห็นเป็นใจเรื่อยมาแทนจะสั่งการให้ถูกต้อง และที่ร้ายกว่านั้น ก็ยังจงใจเพิกถอนให้หน่วยงานของรัฐ ละเลยไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและคำพิพากษาของศาลมาโดยตลอด
“นายกฯ คนนี้ยังต้องการเอาเงินภาษีของประชาชนมาจ่าย เป็นค่าเสียหายให้กับตนเองและบุคคลในครอบครัว ถือเป็นเวรกรรมของคนไทย เมื่อนายกฯ ยังแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัว และผลประโยชน์ส่วนรวม ไม่ได้ จึงไม่สามารถไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป” นายจุลพงษ์ ระบุ