อียูคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซีย! พ่วงลงโทษธนาคาร “ปูติน”ลั่นพร้อมตอบโต้

05 พ.ค. 2565 | 01:49 น.
อัปเดตล่าสุด :05 พ.ค. 2565 | 08:59 น.

"ปูติน" ลั่นพร้อมตอบโต้สหรัฐและอียูที่กดดันรัสเซียหนักหวังสกัดกั้นรายได้จากการส่งออกพลังงาน โดยล่าสุด อียูประกาศแผนคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 6 เตรียมลด-เลิกน้ำเข้าน้ำมันจากรัสเซียภายใน 6 เดือน

วิกฤตยูเครน ยังระอุ นางเออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป เปิดเผยเมื่อวันพุธ (4 พ.ค.) เกี่ยวกับมาตรการลงโทษชุดใหม่ที่จะนำมาใช้กับ รัสเซีย โดยระบุว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะลดการซื้อ น้ำมันดิบจากรัสเซีย ภายในระยะเวลา 6 เดือน และระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานของรัสเซียทั้งหมดภายในสิ้นปี 2565 นี้

 

อย่างไรก็ตาม มาตรการลงโทษชุดใหม่นี้ต้องได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันทน์จากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปก่อนที่จะมีผลบังคับใช้

เออร์ซูลา ฟอน เดอ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป

ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรปกล่าวต่อสภายุโรปวานนี้ (4 พ.ค.) ว่า การเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียด้านพลังงานไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากบางประเทศ (ในอียู) ยังคงพึ่งพาน้ำมันจากรัสเซียอย่างมาก แต่อียูก็จำเป็นต้องทำ

 

การลดการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียลงอย่าง “ค่อยเป็นค่อยไป” ภายในระยะเวลา 6 เดือน จะช่วยให้ประเทศสมาชิกอียูมีเวลาหาทางเลือกอื่นทดแทนน้ำมันจากรัสเซีย และยังช่วยชะลอผลกระทบต่อตลาดพลังงานโลกด้วย ถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันรัสเซียและลดแรงกระแทกทางเศรษฐกิจไปพร้อมกัน

 

ที่ผ่านมา นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ได้พยายามผลักดันให้มีการขยายมาตรการลงโทษต่อภาคพลังงานของรัสเซีย โดยเขากล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า มาตรการลงโทษชุดใหม่ของยุโรปควรรวมถึงวิธีการที่เป็นรูปธรรมชัดเจนในการสกัดกั้นรายได้จากพลังงานของรัสเซีย

นอกจากด้านพลังงานแล้ว มาตรการลงโทษชุดใหม่ของอียูซึ่งจะเป็นมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 6 ยังรวมถึงการถอดชื่อ ซเบอร์แบงค์ (Sberbank) ธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ออกจากเครือข่ายธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ (SWIFT)

 

นอกจากนี้ อียูยังจะเพิ่มรายชื่อของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพรัสเซียผู้รับผิดชอบต่อ "การก่ออาชญากรรมสงคราม" ในเมืองบูชาและการโจมตีเมืองมาริอูโพล ไว้ใน “บัญชีดำ” ของผู้ที่ถูกลงโทษโดยอียูด้วย

 

นางฟอน เดอ เลเยน กล่าวว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียจะต้องชดใช้ราคาแพงสำหรับการกระทำที่รุนแรงโหดร้ายในยูเครน "ปูตินต้องการลบยูเครนออกไปจากแผนที่โลกซึ่งจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ ในทางกลับกัน ยูเครนได้ก้าวขึ้นมาอย่างกล้าหาญและมีเอกภาพ ในขณะที่รัสเซียและปูตินตกเป็นฝ่ายที่กำลังจมดิ่งลง"

 

ในวันเดียวกันที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาจะเจรจากับบรรดาผู้นำกลุ่มประเทศ G-7 เพื่อหาทางลงโทษทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมต่อรัสเซีย

โนสน โนแคร์ “ปูติน” พร้อมตอบโต้ทุกรูปแบบ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ได้มีคำเตือนไปถึงชาติตะวันตกว่า รัสเซียจะยกเลิกสัญญาการซื้อขายสินค้าและพลังงานทั้งหมด ซึ่งถือเป็นการตอบโต้อย่างเข้มแข็งที่สุดของรัสเซียต่อมาตรการลงโทษต่าง ๆ ที่สหรัฐและชาติพันธมิตรนำมาใช้กับรัสเซียในช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา

 

เมื่อต้นสัปดาห์ (3 พ.ค.) ประธานาธิบดีปูตินลงนามในกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งจะห้ามการส่งออกสินค้าและวัตถุดิบต่าง ๆ ไปยังบุคคลและนิติบุคคลที่อยู่ในรายชื่อผู้ที่ถูกทางการรัสเซียลงโทษซึ่งปูตินสั่งให้รัฐบาลกรุงเครมลินจัดทำขึ้นภายใน 10 วัน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย

กฎหมายดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที จะมอบอำนาจให้รัฐบาลรัสเซียในการยกเลิกสัญญาการส่งออกสินค้าที่ทำไว้กับประเทศหรือผู้ที่ถูกลงโทษจากรัสเซีย

 

ปูตินกล่าวว่า กฎหมายใหม่นี้คือการตอบโต้ต่อ "การกระทำผิดกฎหมายของสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตร" ที่มีเป้าหมายจำกัดสิทธิในสินทรัพย์ของสหพันธรัฐรัสเซีย พลเมืองของรัสเซีย และนิติบุคคลที่ถูกต้องตามกฎหมายของรัสเซีย

 

รายงานข่าวระบุว่า ที่ผ่านมามาตรการตอบโต้ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่รัสเซียนำมาใช้กับชาติตะวันตก คือการตัดการขนส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่โปแลนด์และบัลแกเรีย รวมทั้งการบังคับให้ประเทศในยุโรปจ่ายค่าก๊าซจากรัสเซียด้วยเงินรูเบิลเท่านั้น

 

คำเตือนของผู้นำรัสเซียในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่บรรดาผู้นำยุโรปเสนอใช้มาตรการลงโทษชุดใหม่ที่พุ่งเป้าไปยังภาคพลังงานของรัสเซีย ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Centre for Research on Energy and Clean Air ระบุว่า นับตั้งแต่รัสเซียบุกรุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา ประเทศในสหภาพยุโรปยังคงซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียเป็นมูลค่าราว 47,000 ล้านยูโร