“ศุภวุฒิ” ส่งสัญญาณ ธปท. คุมดอกเบี้ยนโยบาย ไม่ควรเกิน 2%

23 ก.ย. 2567 | 13:37 น.
อัพเดตล่าสุด :23 ก.ย. 2567 | 13:40 น.

ประธานบอร์ด สศช. “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” เปิดมุมมอง ธปท.ควรดู ดอกเบี้ยนโยบายของประเทศไทยไม่ควรเกิน 2% ใช้นโยบายการเงินผ่อนคลาย ช่วยค่าเงินอ่อนค่าลง

วันนี้ (23 กันยายน 2567) นายศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (สศช.) เปิดเผยถึงกรณีดอกเบี้ยนโยบาลของประเทศไทยในปัจจุบัน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ควรต้องลดดอกเบี้ยลงตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือไม่ ว่า ได้มีการคำนวณอัตราเงินเฟ้อดูและดูจากสภาวะเศรษฐกิจแล้ว ดอกเบี้ยนโยบายของไทยเราไม่ควรเกิน 2%

ตนเองมีจุดยืนมานานแล้วว่า ตอนที่ขึ้นดอกเบี้ยไป 0.50% ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ปีก่อน นั้นว่า ไม่มีความจำเป็น และตอนนี้ได้คำนวณอัตราเงินเฟ้อดูและดูจากสภาวะเศรษฐกิจแล้ว ดอกเบี้ยนโยบายของไทยเราไม่ควรเกิน 2% นายศุภวุฒิ กล่าว

ส่วนกรณีที่นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ดอกเบี้ยนโยบายของไทยไม่จำเป็นต้องลดตาม เฟด นั้น เห็นว่า ในหลักการนั้นถูกแต่ในความเป็นจริงนั้นประเทศทั้งโลกกำลังลดดอกเบี้ยแปลว่าเขาใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง

ขณะที่ประเทศที่ไม่ได้ลดดอกเบี้ยก็แปลว่าค่าเงินไม่ได้ผ่อนคลาย ก็แปลว่าค่าเงินจะแข็งค่ามากขึ้น ดังนั้นการที่ค่าเงินคุณจะแข็งขึ้นคุณทนได้ก็ทนไป ก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าคุณทนไม่ได้คุณก็ต้องผ่อนคลายลง

นายศุภวุฒิ ยังกล่าวบนเวทีการเสวนา สศช. เรื่อง "การบริหารจัดการเพื่อรับมือผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิรัฐศาสตร์โลก” ว่า ระเบียบโลกกำลังเปลี่ยนไป ปัจจุบันสหรัฐมีความมั่นคงทางการทหารสูง มีฐานทัพครอบคลุม 56 ประเทศ ขณะที่จีนมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจมากขึ้นมีประเทศคู่ค้า 128 ประเทศ โดยจัดทำเส้นทางสายไหม พร้อมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานใน 140 ประเทศ โดยใช้เงินถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ใน 10 ปีที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันจีนกำลังผลิตเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อให้เทียบเท่าด้านการทหารและเทคโนโลยีกับสหรัฐฯ และกำลังปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งประเทศไทยสามารถได้ประโยชน์จากการส่งออกสินค้าเกษตรไปจีน เนื่องจากจีนผลิตได้เพียง 60% ของความต้องการเท่านั้น