ตลาดหุ้นคึก รับเม็ดเงิน “วายุภักษ์1” เข้าเทรด 7 ต.ค.

05 ต.ค. 2567 | 04:30 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ต.ค. 2567 | 04:30 น.

ตลาดหุ้นคึกคัก รับเม็ดเงินกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง หรือ VAYU1 เข้าตลาด นักลงทุนสถาบันพลิกซื้อสุทธิก่อน ก่อนหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าเทรดวันแรก 7 ต.ค.นี้ มั่นใจจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ไม่น้อยกว่า 3% ต่อปีและไม่เกินกว่า 9% ต่อปี

​​​สร้างความคึกคักให้กับตลาดไม่น้อย หลังกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดขายหน่วยลงทุนประเภท ก.ให้กับนักลงทุนทั่วไป มีผู้ลงทุนต้องการจองซื้อหน่วยลงทุนอย่างคึกคักมากกว่า 1.9 แสนล้านบาท เกินกว่ามูลค่าที่เสนอขาย 1.5 แสนล้านบาท

ขณะที่กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้เริ่มใส่เงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตลท.) ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ก่อนที่จะนำหน่วยลงทุน ประเภท ก.หรือ VAYU1 เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพฯวันที่ 7 ตุลาคมนี้

 ตลาดหุ้นคึก รับเม็ดเงิน “วายุภักษ์1” เข้าเทรด 7 ต.ค.  

ดังนั้นตลาดหุ้นไทยจึงประเดิมไตรมาส 4 ปี 2567 ด้วยความสดใส โดยวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นดีดตัวแรงกว่า 15 จุด สร้างจุดปิดสูงสุดในรอบปีที่ระดับ 1,464.66 จุด

ขณะที่ยอดซื้อหุ้นของนักลงทุนสถาบันพุ่งขึ้น 8,823 ล้านบาท สูงกว่าปกติอย่างผิดสังเกต และเป็นยอดขายหุ้น 5,358 ล้านบาท หักลบแล้วนักลงทุนสถาบันมียอดซื้อหุ้นสุทธิ 3,464 ล้านบาท และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ดันให้ดัชนีพุ่งทะยาน สะท้อนว่า เงินกองทุนวายุภักษ์ได้เข้าตลาดมาแล้ว

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน กรุงไทย จํากัด (มหาชน) หรือ KTAM ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เปิดเผยว่า กองทุนฯ จะเริ่มลงทุนตามนโยบายการลงทุนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 โดยมีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ต่าง ๆ ภายใต้การบริหารแบบเชิงรุก (Active Investment) และแบบเชิงรับ (Passive Investment)

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุน กรุงไทย จํากัด (มหาชน)

ส่วนใหญ่จะลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเน้นลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานและสภาพคล่องที่ดี มีความ มั่นคงในระยะยาว ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี

"อาทิ บริษัทที่อยู่ใน SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ระดับ A ขึ้นไป หรือบริษัทนอก SET100 ที่ได้รับคะแนน SET ESG Ratings ที่สูงกว่า"

นอกจากนั้น อาจพิจารณาลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และทรัสต์เพื่อการลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ ที่มีอัตราผลตอบแทนดี หรือมีแนวโน้มเติบโตสูง มีสภาพคล่องและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี 

ด้านนายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จํากัด (มหาชน) หรือ MFC ในฐานะบริษัทจัดการกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU 1)กล่าวว่า หน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับการจัดสรรเป็นรูปแบบไร้ใบหน่วย (Scripless) โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถแจ้งขอออกใบหน่วยลงทุนได้

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จํากัด (มหาชน)

หลังจากที่บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จํากัด หรือ TSD ได้ฝากหน่วยลงทุนตามจํานวนที่ได้รับจัดสรรเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ของตนเอง หรือบัญชี 600 และหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว โดยมีค่าธรรมเนียมตามที่ TSD กำหนด

 ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้หลังจากหน่วยลงทุนประเภท ก. เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งผู้ลงทุนที่ฝากหน่วยลงทุนไว้กับ TSD ในบัญชี 600 ต้องโอนหน่วยลงทุนเข้าบัญชีหลักทรัพย์ของตนเองก่อนจึงจะสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนดังกล่าวผ่านตลาด หลักทรัพย์ฯ ได้ทุกวันทำการของตลาดหลักทรัพย์ฯ 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัดกล่าวว่า การเริ่มเข้าลงทุนของกองทุนวายุภักษ์ในเดือนตุลาคมนี้ บล.ทิสโก้มองอย่างน้อย น่าจะช่วยหล่อเลี้ยงภาวะตลาดได้ในช่วงครึ่งเดือนแรก

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด

ส่วนในช่วงครึ่งเดือนหลัง คาดนักลงทุนจะหันมาโฟกัสการประกาศผลประกอบการและใช้ความระมัดระวังมากขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในต้นเดือนหน้า ซึ่งปกติตลาดสหรัฐฯ มักจะปรับตัวลง 5-10% ในช่วง 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ  

"ดังนั้น บล.ทิสโก้แนะนำนักลงทุนหาจังหวะทยอยขายทำรอบกำไรในช่วงครึ่งเดือนแรก รอย่อตัวซื้อคืนในช่วงครึ่งเดือนหลัง"

โดยคาดหวังตลาดกลับมาเดินหน้าขึ้นต่อในช่วงที่เหลือของปีนี้หลังการเลือกตั้งสหรัฐฯ มีความชัดเจน หนุนกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าต่อ ผสานกับเม็ดเงินกองทุนลดหย่อนภาษีที่ปกติจะไหลเข้ามากสุดในช่วงปลายปีนี้ โดยบล.ทิสโก้มีเป้าหมาย SET Index เชิงกลยุทธ์สิ้นปีนี้ที่ 1,500-1,520 จุด   

อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินกองทุนวายุภักษ์และกองทุน TESG ให้ความสำคัญประเด็น ESG ดังนั้น บล.ทิสโก้จึงคัดเลือกหุ้นที่อยู่ใน SETESG Index ที่มี ESG Rating ระดับ A ขึ้นไป และเป็นหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 3/2567 จะออกมาดี

ดังนั้น หุ้นเด่นในเดือนตุลาคม คือ CBG, CK, CRC, HMPRO, MTC, PR9, SIRI และ TTB  ด้านแนวรับสำคัญเดือนนี้อยู่ที่ 1,430 จุด และ 1,410+ - และแนวต้านสำคัญของเดือนนี้อยู่ที่ 1,480 จุด 1,500-1520 จุดตามลำดับ 

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัดกล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนเดือนตุลาคม 2567 นั้น คาดตลาดหุ้นไทยจะยังคงทรงตัวได้ แม้ Valuation จะทรงตัวในระดับสูงแล้วก็ตาม

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด

เนื่องจาก ณ ขณะนี้ โมเมนตัมของ Sentiment, Flows และ Liquidity ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี และในเดือนนี้จะมีสภาพคล่องจากกองทุนวายุภักษ์มูลค่ากว่า 1.5 แสนล้านบาทที่จะเป็นตัวช่วยพยุงภาพของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ

ขณะที่บล.ฟินันเซียไซรัสระบุว่า การซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมพบว่า นักลงทุนสถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิ 3.4 พันล้านบาท ส่งผลให้ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 16.7% จากปกติ 8-10% และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ 1 แสนล้านบาท

นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จํากัด (มหาชน)กล่าวว่า เม็ดเงินใหม่ที่จะเข้ามาหนุนตลาดในงวดไตรมาส 4/2567 มีนัยสำคัญ โดยการลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ที่กระจายมากขึ้นสู่หุ้นที่มี ESG Score สูงๆ จะหนุน ทั้งฝั่งวายุภักษ์ 1.5 แสนล้านบาท

และเม็ดเงินการลงทุนลดหย่อนภาษีกองทุน Thai ESG ซึ่งเกณฑ์มีความจูงใจ (ลดหย่อนได้ 30% ของรายได้ วงเงินสูง 3 แสนล้านบาท แยกจากวงเงินลดหย่อนภาษีรูปแบบเดิม) จะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยรวมมองเม็ดเงินลงทุนเร่งขึ้นในช่วงไตรมาส 4/2567 สูงถึง ราว 1.7-1.8 แสนล้านบาท 

 

หน้า13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,033 วันที่ 6 - 9 ตุลาคม พ.ศ. 2567