Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี เบื้องหลังความสำเร็จของ Sanrio

01 พ.ย. 2567 | 02:38 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2567 | 02:40 น.

ในช่วง 50 ปีนับตั้งแต่ถือกำเนิด Hello Kitty ตัวการ์ตูนแมวยอดฮิตก็มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ส่งผลให้บริษัท Sanrio ประสบความสำเร็จ

Hello Kitty ตัวการ์ตูนยอดฮิตขวัญใจหนุ่มสาวหลายคน ภาพลักษณ์แสนบ้องแบ๊ว เจ้าของบุคลิกน่ารักสดใส ผิวขาวเนียน ติดโบว์สีแดง ตัวละครตัวนี้ไม่มีปาก ไม่มีภูมิหลังใดๆ และไม่เคยปรากฏตัวในมังงะหรืออนิเมะ แต่เธอยังคงมีบทบาทอย่างต่อเนื่องในตลาดสินค้าทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศมานานกว่า 50 ปี 

วันเกิด Hello Kitty ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1974 บังเอิญตรงกับช่วงสำคัญด้านผลงานของผู้สร้างอย่าง Sanrio ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 1999 เจ้าแมวน้อย อายุครบ 25 ปี Sanrio รายงานยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 150,000 ล้านเยน

Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี  เครดิตภาพ :Hello Kitty Japan

หนึ่งทศวรรษครึ่งต่อมา Kitty อายุครบ 40 ปี และผู้สร้างรายงานยอดขายจากตลาดต่างประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36% และมีกำไรจากการดำเนินงานสูงสุดตลอดกาลที่ 22,000 ล้านเยน ปีที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2014 แม้ว่าบริษัทจะเห็นยอดขายและกำไรลดลงเป็นเวลาเจ็ดปี แต่บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ 27,000 ล้านเยน

สำหรับปีที่สิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2024 (แซงสถิติในปี 2014) มีมูลค่าตลาดมากกว่า 700,000 ล้านเยน ก่อนที่ Kitty จะอายุครบ 50 ปี

ปัจจัยหนึ่งในการฟื้นตัว คือ การส่งมอบอำนาจจากซีอีโอ Tsuji Shintaro ซึ่งตอนนั้นอายุ 92 ปี ให้กับหลานชายวัย 31 ปี Tsuji Tomokuni ในปี 2020 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงผู้นำครั้งแรกของ Sanrio นับตั้งแต่ปี 1960

Seiko โมเดลการออกแบบครบรอบ 50 ปี Hello Kitty รุ่นพิเศษ Hello Kitty Bullet Train Watch เครดิตภาพ :Hello Kitty Japan

อีกปัจจัยหนึ่งคือความโดดเด่นที่ลดน้อยลงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Hello Kitty ในยอดขายรวมของ Sanrio ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาจาก 75% เหลือเพียง 50% เนื่องจากบริษัทเลิกพึ่งพาตัวละครตัวนี้

Sanrio เริ่มต้นธุรกิจจากการเป็น Yamanashi Silk Center ในโตเกียวปี 1960 โดยมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและสินค้าจาก Yamanashi แต่ในช่วงนั้นญี่ปุ่นเริ่มเปลี่ยนไปสู่วัฒนธรรมใหม่ที่มีตัวละครสร้างสรรค์มากมาย ทั้งดิสนีย์และตุ๊กตาบาร์บี้ รวมถึงลิกก้าจังที่เข้ามาครองใจเด็กๆ  

การเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นเมื่อมีการออกผ้าเช็ดหน้าลายสตรอว์เบอร์รีในปี 1962 และเข้าสู่ตลาดสินค้าของที่ระลึก โดยร่วมมือกับศิลปินเพื่อสร้างตัวละครน่ารักๆ และในปี 1973 บริษัทได้เปลี่ยนชื่อเป็น Sanrio ที่ฟังดูตะวันตก ซึ่งเป็นแนวคิดที่ต้องการทำให้บริษัทเป็นที่รู้จักทั่วโลก

ในปี 1974 นักออกแบบ Shimizu Yuko ได้สร้างตัวละครแมวที่ผูกโบว์ที่ต่อมาจะกลายเป็น Hello Kitty ซึ่งตัวละครนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ด้วยดีไซน์น่ารักและความยืดหยุ่นในการนำไปใช้ในสินค้า

เมื่อเปิดตัวครั้งแรกผ่านกระเป๋าใส่เหรียญ Hello Kitty ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม การออกแบบแบบไร้ปากของเธอทำให้เกิดความรู้สึกอยากสื่อสารและผูกพันในแบบพิเศษกับแฟนๆ ทั่วโลก

Sanrio เติบโตอย่างรวดเร็วในญี่ปุ่นด้วยเครือข่ายร้าน Sanrio Gift Gate ในช่วงปี 1970 และ 1980 ซึ่งทำให้บริษัทครองส่วนแบ่งตลาดของที่ระลึกได้ถึง 80% แต่ก้าวเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้ยากในช่วงแรก ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย

จนกระทั่งการเปิดตัวร่วมกับแบรนด์ดังและการใช้โซเชียลมีเดียในปี 2000 ที่ช่วยผลักดันแบรนด์เข้าสู่กระแสใหม่ๆ โดย Hello Kitty ได้กลายเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าคนดังอย่าง Mariah Carey และ Lady Gaga

MCM ได้เปิดตัวคอลเลกชันรุ่นลิมิเต็ดของญี่ปุ่นที่ระลึกครบรอบ 50 ปีของ Hello Kitty เครดิตภาพ :Hello Kitty Japan ปัจจุบัน Sanrio ดำเนินธุรกิจในกว่า 130 ประเทศ ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงองค์กรครั้งใหญ่ในปี 2020 Sanrio หันมาพัฒนาธุรกิจดิจิทัลและเข้าสู่ตลาด Roblox (แพลตฟอร์มเกมออนไลน์ที่ผู้ใช้สร้างและแบ่งปันเกม) รวมถึง Web 3 พร้อมทั้งการสร้างสวนสนุก Puroland ในโลกเสมือน และยังคงพัฒนา "Sanrio time" เพื่อเพิ่มเวลาที่ผู้บริโภคใช้ร่วมกับสินค้าของบริษัท

ด้วยสโลแกนใหม่ “One World, Connecting Smiles” Sanrio ยังคงมุ่งเน้นสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับผู้คนทุกวัย

อ้างอิงข้อมูล 

nippon