การดีเบตประธานาธิบดีสหรัฐฯครั้งแรกระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ เเละ กมลา แฮร์ริส สิ้นสุดลง ท่ามกลางความผิดหวังอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้สนับสนุนทรัมป์ เนื่องจากการดีเบตได้เห็นกมลา แฮร์ริสคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ใช้เทคนิคเพื่อทำให้เขาพูดนอกประเด็นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และพลาดโอกาสที่จะโต้แย้งเรื่องนโยบายของแฮร์ริส
แม้ว่าทรัมป์จะยืนกรานว่าตนเองชนะการดีเบตด้วยคะแนนขาดลอย แต่พรรครีพับลิกันก็เห็นพ้องต้องกันว่าทรัมป์เป็นรอง จากการที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริสพยายามล่อให้ทรัมป์เสียจุดอ่อน ในขณะที่ทรัมป์ตอบโต้ด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด
แฮร์ริสยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการดีเบตของเธอ โดยปรากฏตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับ โจ ไบเดน เพื่อเข้าร่วมงานที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงวันครบรอบ 23 ปีของการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
นักวิจารณ์หลายคน กล่าวว่า บรรยากาศของการดีเบตถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ตอนต้นเมื่อแฮร์ริสเดินขึ้นไปบนเวทีและเดินเข้าไปที่แท่นปราศรัยของทรัมป์เพื่อแนะนำตัวและจับมือกับเขา หลังจากลังเลเล็กน้อย ถือเป็นการจับมือครั้งแรกในการดีเบตประธานาธิบดีนับตั้งแต่ปี 2016 ขณะที่ท่าทางดังกล่าวทำให้แฮร์ริสพลิกสถานการณ์กลับมาเล่นงานทรัมป์ได้ ซึ่งมีประวัติในการดูถูกผู้หญิง ตามที่ Politico เขียนไว้
ตามที่ the guardian อธิบาย ช่วงเวลาสำคัญอีกช่วงหนึ่งของการเผชิญหน้ากินเวลานานถึง 105 นาที การตอบคำถามต่อเนื่องเกี่ยวกับร่างกฎหมายตรวจคนเข้าเมือง ทรัมป์กลับออกนอกเรื่องโดยเปรียบเทียบการชุมนุมของผู้สมัครทั้งสองคน แฮร์ริสยิ้มและจ้องมองเขา
แฮร์ริสยังยั่วยุทรัมป์ด้วยการบอกว่าพันธมิตรของสหรัฐฯ มองว่าเขาอ่อนแอเพราะมองว่าเขาเป็นแค่คนประจบประแจงต่อวลาดิมีร์ ปูติน
การแลกเปลี่ยนดังกล่าว รวมถึงการแลกเปลี่ยนอื่นๆ หลายครั้ง ทำให้เห็นชัดเจน ว่าทรัมป์พ่ายแพ้อย่างราบคาบ นอกจากนี้ พรรครีพับลิกันยังยกย่องแฮร์ริสเพราะเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี
“เธอเตรียมตัวมาอย่างดีเยี่ยม เธอวางกับดัก” คริส คริสตี้ อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งช่วยทรัมป์เตรียมตัวสำหรับการดีเบตกับ ฮิลลารี คลินตัน ในปี 2016 กล่าวกับ ABC